MAIN POINTS
- Co-living space คือเทรนด์ใหม่ที่เริ่มเป็นที่นิยมช่วงนี้ คือการอยู่อาศัยของกลุ่มคนที่ไม่รู้จักกัน โดยมีพื้นที่ส่วนกลางไว้สำหรับการทำงาน ทำครัว หรือกิจกรรมอื่นๆ การอยู่อาศัยรูปแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากขึ้น
- ข้อดีของการอยู่แบบ Co-living space มีหลากหลายด้วยกัน คือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง สะดวกสบาย ไม่จำกัดขอบเขตการใช้ชีวิต อีกทั้งยังช่วยเปิดโอกาสให้ได้พบเจอคนรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้นได้อีกด้วย
Co-living Space เป็นอีกหนึ่งกระแสการอยู่อาศัยในอนาคตที่เริ่มจะเห็นภาพมากขึ้นในปัจจุบัน หลายๆ เมืองใหญ่อย่างสิงคโปร์และฮ่องกงกำลังเริ่มสร้างพื้นที่รูปแบบนี้มากขึ้น เพราะความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ไม่ต้องยึดติดกับพื้นที่รูปแบบเดิมๆ แถมยังได้เจอคนใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย สำหรับใครกำลังมองหาอะไรใหม่ๆ ในชีวิต เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น เอพีชวนมาทำความรู้จักกับกระแสการอยู่อาศัยร่วมกันอย่าง Co-living Space ทั้งข้อดีและลักษณะของการออกแบบพื้นที่รูปแบบนี้ให้มากขึ้นกัน
เทรนด์ Co-living คืออะไร?
การอยู่อาศัยร่วมกัน หรือ Co-living space คือเทรนด์ใหม่ที่เริ่มเป็นที่นิยมช่วงนี้ พูดง่ายๆ คือการอยู่อาศัยของกลุ่มคนที่ไม่รู้จักกัน โดยมีพื้นที่ส่วนกลางไว้สำหรับการทำงาน ทำครัว หรือกิจกรรมอื่นๆ การอยู่อาศัยรูปแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากขึ้น สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ต้องการความสะดวกสบาย ยืดหยุ่นมากขึ้นกับชีวิต และอยากได้บรรยากาศในการทำงานหรือใช้ชีวิตใหม่ๆ ตลอดจนเรื่องของความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน
กระแสรูปแบบนี้กำลังมาแรง เนื่องจากความแปลกใหม่ของการอยู่อาศัย โดยทั่วไปผู้เช่ามักจะมีพื้นที่ส่วนตัวเพียงแค่ห้องนอน หรือห้องน้ำ และมีพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางอย่างห้องครัว ห้องนั่งเล่น พื้นที่ซักล้างและห้องน้ำส่วนร่วม นอกจากนี้ผู้ให้บริการอาจเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ให้เป็นส่วนกลาง และบางพื้นที่อาจให้บริการระดับโรงแรม เช่น อาหารเช้าและการทำความสะอาด จากความสะดวกสบายและความน่าสนใจนี่เองที่ทำให้กระแสการอยู่ร่วมกันแบบนี้เป็นที่น่าจับตามอง
ข้อดีของการอยู่ร่วมกันแบบ Co-living
1. เข้าถึงง่าย ราคาไม่แพง
ด้วยอัตราที่ดินเพิ่มชึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ค่าเช่าบ้านหรือคอนโดก็เพิ่มขึ้นตาม สำหรับมนุษย์เงินเดือนอาจจะรู้สึกว่าเป็นการจ่ายที่ไม่คุ้มราคา ทางเลือกของการอยู่อาศัยรูปแบบนี้จึงตอบโจทย์มากกว่า เพราะไม่ได้ต้องจ่ายหรือซื้อแพง แต่ก็สะดวกสบาย และมีครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน
2. สะดวกสบาย ไม่มีภาระมากจนเกินไป
การอยู่ Co-living Space จะช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องต่างๆ มากขึ้น เช่น ไม่ต้องตกแต่งบ้านหรือห้องนั่งเล่นด้วยตัวเอง ไม่ต้องทำความสะอาดห้องทุกวัน รวมถึงเรื่องของการซื้อของเข้าบ้านก็อาจจะแชร์ร่วมกับคนที่อยู่อาศัยร่วมกันในบ้านได้
3. พบเจอคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
การอยู่อาศัยรูปแบบนี้จะเปิดโอกาสให้เราได้พบเจอคนใหม่ๆ มากขึ้น เพราะต้องใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน เช่น ทำอาหาร ดูหนัง พูดคุย ตลอดจนกิจกรรมประจำปีต่างๆ อย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ การอยู่อาศัยรูปแบบนี้นอกจากจะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้ไม่น่าเบื่อแล้ว ยังเปิดพื้นที่ให้มีสังคมที่หลากหลายมากขึ้นด้วยเหมือนกัน
4. ไม่จำกัดขอบเขตของการใช้ชีวิต
การพักอาศัยรูปแบบนี้จะเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการใช้ชีวิตได้มากขึ้น คือไม่ต้องยึดติดอยู่กับพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นเวลานาน สามารถออกแบบชีวิตของตัวเองได้มากขึ้นตามความต้องการ และสามารถย้ายออกได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
5. เหมาะกับชาวมินิมอล
อีกหนึ่งข้อดีคือ การอยู่อาศัยประเภทนี้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบสไตล์มินิมอล เพราะไม่จำเป็นต้องมีของใช้ส่วนตัวจำนวนมาก และสามารถใช้งานพื้นที่ส่วนกลางแทนได้ เมื่อเกิดการโยกย้ายก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งของอื่นๆ ในพื้นที่ส่วนกลางด้วยนั่นเอง
การอยู่อาศัย Co-living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
ในปัจจุบัน การอยู่อาศัยรูปแบบนี้มักจะพบเจอได้ในต่างประเทศเป็นหลัก เช่น ฮ่องกง ปักกิ่ง หรือสิงคโปร์ สำหรับประเทศไทยยังไม่มีรูปแบบการอยู่อาศัยแบบนี้ชัดเจนมากนัก แต่ในโครงการคอนโดมิเนียมหรือบ้านจัดสรรหลายๆ แห่งเองก็เริ่มมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่นี้มากขึ้น
สำหรับโครงการของเอพีเองก็ใส่ใจถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน บางคนอาจต้องการพื้นที่ทำงานนอกบ้าน พื้นที่พักผ่อน ตลอดจนพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว เอพีจัดเต็มกับส่วนกลางที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น
Elevated Fitness
ยกระดับคุณภาพชีวิตและการออกกำลังกายประจำวันไปอีกขั้นด้วยฟิตเนส Elevated fitness room ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ตลอดจนกระจกรายล้อม มองเห็นวิวสีเขียวด้านนนอกได้อย่างสบายตาและร่มรื่น
Co-Creative Space
เปิดพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ทำงาน Co-cretive Space บริเวณส่วนกลางของโครงการ ที่ออกแบบมากึ่งเลาจน์ พร้อมรองรับทุกการทำงานและการพบปะ สามารถเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัว หรือพื้นที่รองรับแขกก็ได้เช่นกัน
Kid’s Room
ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เอพียังให้ความสำคัญกับสมาชิกตัวน้อยของบ้านด้วยห้อง Kid’s room เต็มไปด้วยของเล่น เพื่อส่งเสริมจินตนาการและพัฒนาการของเด็กๆ อีกทั้งยังมีสวนส่วนกลาง ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สามารถชวนคนทั้งบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกันได้ในทุกๆ วัน
Lobby
เปิดพื้นที่ต้อนรับแขกคนสำคัญได้ง่ายๆ ด้วยพื้นที่ล็อบบี้ส่วนกลางของโครงการ ได้ทั้งความสะดวกสบาย ปลอดภัย ตลอดจนสามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน ผ่อนคลายไปกับวิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวขนาดใหญ่
Green Connection
หลบหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ด้วยพื้นที่สวนสีเขียวใจกลางเมือง เพื่อยกระดับการพักผ่อนไปอีกครั้ง การออกแบบและตกแต่งด้วยพรรณไม้สีเขียวชอุ่ม โอบล้อมและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นกว่าที่เคยได้ง่ายๆ
พื้นที่การอยู่อาศัย Co-Living รูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์อย่างครอบคลุม
พื้นที่อาศัยรูปแบบใหม่นี้ถือว่าตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่มากๆ เพราะไม่ต้องยึดติดอยู่กับบรรยากาศเดิมๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้ได้เจอกลุ่มคนและคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น เช่นเดียวกันกับโครงการของเอพีเองก็มีส่วนกลางที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอะไรใหม่ๆ ในชีวิตมากกว่าเดิม
เอพี ไทยแลนด์ เติมเต็มเป้าหมาย ชีวิตดี ๆ ในพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเองได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดดีไซน์สวย คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋ง รองรับทุกธุรกิจ ก็เลือกให้ตอบโจทย์ได้เลย เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ