โลกเปลี่ยนไปมากในยุคปัจจุบัน ด้วยภัยธรรมชาติจากภาวะโลกร้อนต่างส่งผลกระทบอย่างรวดเร็ว จึงไม่แปลกที่ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในทุกภาคส่วน รวมถึงในธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เองก็หันมาใส่ใจและสร้างที่อยู่อาศัยภายในแนวคิด Eco living ซึ่ง Eco house คือ การออกแบบบ้านภายใต้แนวคิดบ้านประหยัดพลังงาน ช่วยในเรื่องการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทำให้การสร้างบ้านเกิดประโยชน์สูงสุด และลดผลกระทบกับธรรมชาติน้อยที่สุด ดังนั้น หากคุณต้องการเปลี่ยนบ้านด้วยแนวคิดนี้ ก็สามารถทำได้โดยวิธีที่เรามานำเสนอกันในบทความนี้
บ้านเดี่ยว The City เอกมัย-ลาดพร้าว
1. ออกแบบบ้านเชิงนิเวศให้เหมาะกับ Eco living
การสร้างบ้านในแบบ Eco living สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลักๆ คือ การออกแบบบ้านหรือการวางผัง เพื่อให้การก่อสร้างนั้นกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สามารถเริ่มตั้งแต่การเลือกวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง เช่น วัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างคอนกรีตมวลเบา บล็อกคอนกรีตรีไซเคิล อิฐยางรีไซเคิล เป็นต้น
สำหรับการออกแบบพื้นที่ภายในบ้าน ควรให้ความสำคัญกับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นสัดส่วน ช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง มีทิศทางลมเข้าออก ช่วยลดความร้อน และทำให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้ดี และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Eco-Friendly ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และบริเวณรอบๆ บ้านควรปลูกต้นไม้เพื่อให้ความร่มรื่น ปิดบังแสงแดด ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้กลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ ผ่อนคลายกับการอยู่อาศัยในรูปแบบ Eco living มากขึ้น
2. ใช้วัสดุก่อสร้างลดความร้อน ช่วยให้บ้านเย็น
เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเราถือว่าเป็นเมืองร้อน การออกแบบและสร้างที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Eco living ที่นอกจากจะเป็นการใส่ใจสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย เพื่อให้พักผ่อนได้อย่างมีความสุข และประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการเปิดแอร์ ดังนั้น เราลองมาดูกันว่าจะมีวิธีการเลือกวัสดุก่อสร้างบ้านชิ้นไหนบ้าง ที่จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและลดการใช้ไฟลง
● หลังคากันความร้อน
หลังคาบ้านเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่รับแสงแดดและส่งผลให้ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านมากที่สุด จึงควรเลือกหลังคาให้เหมาะสมและช่วยกันความร้อนได้ดี เช่น หลังคากระเบื้องทรงสูงแบบลอนจะช่วยกันความร้อนสะท้อนแสงได้ดี หรือหลังคาประเภทเมทัลชีทติดฉนวน ช่วยไม่ให้ความร้อนถูกส่งเข้ามายังตัวบ้าน
● ฉนวนกันความร้อน
สำหรับฉนวนกันความร้อน วัสดุที่ใช้ป้องกันความร้อนใต้หลังคา ซึ่งจะช่วยต้านความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นในแบบนวัตกรรม Eco living และยังช่วยลดการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม ทั้งนี้ โดยทั่วไปจะว่าตัวฉนวนกันความร้อนนั้นมีหลายแบบ แต่หลักๆ ที่นิยมจะเป็นฉนวนกันความร้อนแบบแผ่น สามารถดัดโค้งงอตามโครงสร้างของตัวบ้านได้
● ฝ้าชายคาระบายอากาศ
ฝ้าชายหลังคา นอกจากจะช่วยในเรื่องการตกแต่งให้บ้านดูสวยงามแล้ว ฝ้าชายคายังช่วยระบายอากาศ รวมถึงยังเป็นตัวช่วยลดความร้อนจากโถงใต้หลังคา ทำให้ตัวบ้านปลอดโปร่ง ลดการดูดความร้อนจากหลังคา ช่วยให้การอยู่อาศัยเย็นสบายในแบบ Eco living
3. เลือกพลังงานสะอาด ประหยัดได้มากกว่า
คอนเซ็ปต์ของ Eco house คือ การออกแบบบ้านภายใต้แนวคิดการประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเลือกใช้พลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม ช่วยให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ และยังคงคอนเซ็ปต์ Eco living อีกด้วย ซึ่งจะมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
● พลังงานแสงอาทิตย์
อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้นว่าการใช้พลังงานสะอาดจากธรรมชาติ อย่างการติดตั้งโซลาเซลล์ เป็นการออกแบบภายใต้แนวคิด Eco living เนื่องจากเป็นพลังงานที่สะอาด ช่วยลดโลกร้อนอีกทั้งยังลดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนได้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันโครงการหมู่บ้านอย่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ AP Thai เองก็ได้นำนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการประหยัดพลังงาน เช่น คลับเฮาส์ หรือพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการเข้ามาช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของลูกบ้านให้ประหยัดค่าใช้จ่ายพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้านอีกด้วย
● ระบบบำบัดน้ำเสีย
การออกแบบจัดการด้านระบบบำบัดน้ำเสียในครัวเรือน สามารถทำได้ทั้งบ่อดักขยะ การระบายน้ำทิ้งจากครัวเรือ บ่อดักไขมัน เป็นต้น ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียนี้ จะช่วยให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่หากเป็นอาคารหรือหมู่บ้าน และต้องการทำระบบบำบัดน้ำเสียสามารถให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาวางแผนและทำระบบให้ได้ ยกตัวอย่าง ระบบการบำบัดน้ำเสียของทางโครงการหมู่บ้าน AP Thai ได้ทำการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่มาจากการชำระล้างทั่วไป (Greywater) ภายในโครงการ นำมาผ่านกระบวนการบำบัดปรับสภาพเพื่อใช้รดน้ำต้นไม้ภายในพื้นที่ส่วนกลาง เรียกได้ว่าช่วยประหยัดค่าน้ำประปาได้ดีเลยทีเดียว
● ระบบ Smart Solar Fresh Air System
สำหรับนวัตกรรม Smart Solar Fresh Air System เป็นนวัตกรรมของการอยู่อาศัยสมัยใหม่ ตอบโจทย์ในเรื่องของ Eco living ซึ่งนวัตกรรมนี้จะทำหน้าดูดความร้อนภายในบ้านและปล่อยออกไปยังนอกตัวบ้าน เพื่อช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องลดลง หรือทำให้ห้องมีอากาศเย็นสบายนั้นเอง แถมยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีอีกด้วย
4. นำระบบ Smart Home มาประยุกต์ใช้
โครงการบ้านอัจฉริยะ หรือบ้านระบบ Smart Home สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับนวัตกรรมการอยู่อาศัยแบบ Eco living เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ซึ่งระบบ Smart Home สามารถแบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้
- Lighting Control ระบบควบคุมการปิด-เปิดไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในบ้านตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ควบคุมง่าย ช่วยจับความเคลื่อนไหวและความสว่างภายในบ้านได้แบบอัตโนมัติ แถมยังช่วยให้ผนังบ้านเรียบสะอาดไม่มีสวิตซ์หรือสายไฟระเกะระกะ
- Automatic Sprinkle ระบบหัวกระจายน้ำอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดเวลาและไม่ต้องกังวัลว่าหากไม่อยู่บ้านต้นไม้จะเหี่ยวเฉา เพราะสามารถตั้งเวลารดน้ำต้นไม้ได้ผ่านการควบคุมบนแอปพลิเคชัน
- Temperature Controller จะดีแค่ไหนหากสามารถควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านเพียงไม่กี่คลิกผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ไม่ว่าอากาศจะร้อนระอุจากแสงแดดนอกบ้านมากแค่ไหน เพียงแค่คลิกสั่งระบบแอร์เปิดอัตโนมัติ กลับเข้าบ้านมาก็จะเจอแอร์เย็นๆ เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแบบ Smart Home ได้เป็นอย่างดี
โดยระบบ Smart Home ในข้างต้นทาง AP Thai ก็ได้นำนวัตกรรมเหล่านี้มาออกแบบให้กับโครงการบ้านเดี่ยว เพื่อเป็นการเจาะกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย เพียงแค่ควบคุมการใช้งานบนแอปพลิเคชันบนมือถือเท่านั้น จึงทำให้คุณสามารถควบคุมระบบต่างๆ ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
5. เลือกเครื่องใช้ที่ประหยัดพลังงาน
เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งอุปกรณ์ภายในบ้านที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนค่อนข้างสูงตามการใช้งาน จะดีแค่ไหนหากสามารถเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานในรูปแบบบ้าน Eco living มาดูกันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไหนจะเข้ามาแก้ไขให้ช่วยประหยัดพลังงานรวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งประหยัดเงินในกระเป๋า
● หลอดไป LED
หลอดไฟ LED เป็นอีกหนึ่งการประหยัดพลังงาน เนื่องจากเป็นหลอดไฟที่กินไฟน้อย แต่มีประสิทธิภาพในการส่องสว่างมาก ทั้งยังไม่ปล่อยรังสี UV จึงทำให้ไม่กระจายความร้อนออกมา แถมยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 10-20 ปี เมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่นๆ โดยเฉลี่ยหลอดไฟประเภทนี้ประหยัดไฟกว่าหลอดธรรมดาได้ถึง 50-80% ตอบโจทย์ผู้ต้องการเปลี่ยนบ้านให้อยู่ภายใต้แนวคิด Eco living
● เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 ได้ผ่านการทดสอบว่ามีประสิทธิภาพในเรื่องของการประหยัดพลังงานตามมาตรฐานที่ กฟผ. และทางกระทรวงพลังงานได้กำหนดไว้ ซึ่งบนฉลากเบอร์ 5 จะมีรายละเอียดที่แบ่งออกเป็น ค่าไฟฟ้าที่จะแสดงให้เห็นว่าค่าไฟฟ้าต่อปี ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ค่าประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นอกจากได้มาตรฐาน ปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการการันตีว่าช่วยประหยัดค่าไฟหรือพลังงานได้
● ถังหมักปุ๋ยในบ้าน
การมีถังหมักปุ๋ยในบ้านจะช่วยให้สามารถจัดการกับเศษอาหารได้ โดยหลักการทำงานของถังหมักปุุ๋ยจะทำการเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยหมัก โดยอาจจะใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ ในการแปลงสภาพ ซึ่งเมื่อได้ปุ๋ยหมักมาแล้วก็สามารถนำไปใส่ต้นไม้ หรือพืชผักสวนครัวจากสวนเล็กๆ ภายในบ้าน ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ และเป็นการหมุนเวียนด้านการใช้ประโยชน์ได้ดีเลยทีเดียว เหมาะกับแนวคิดการเปลี่ยนภายให้เป็น Eco living
การปรับเปลี่ยนบ้านภายใต้แนวคิด Eco living เป็นการแสดงถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ เพื่อลดการสร้างขยะ รวมถึงมลพิษต่างๆ ซึ่งทาง AP Thai เองก็เห็นถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเลือกใช้พลังงานสะอาด จึงได้ออกแบบโครงการของทาง AP Thai ภายในแนวคิด Hybrid Living ที่จะนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในบ้าน เช่น คลับเฮาส์พลังงานแสงอาทิตย์ ให้พลังงานแสงอาทิตย์ทำงาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลาง หรือระบบกำจัดน้ำเน่าเสีย (Greywater) เป็นการนำน้ำเสีย มาผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อใช้รดน้ำต้นไม้ในโครงการ จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขและยังเป็นการลดค่าส่วนกลางได้อีกด้วย