LIVING SERIES
  • Witty Living

จัดบ้านผู้สูงอายุอย่างไรให้ปลอดภัยและตอบโจทย์การใช้ชีวิต

แนะนำข้อควรรู้และแนวทางการจัดบ้านผู้สูงอายุ ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ให้คนที่คุณรักใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย ไร้กังวล

AP THAILAND

AP THAILAND

การจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

MAIN POINT

 

  • ก่อนเริ่มจัดบ้านผู้สูงอายุ ควรประเมินสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุ วางแผนจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายให้รอบคอบ เพื่อออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด
  • การจัดบ้านที่เหมาะผู้สูงอายุ ควรให้ความสำคัญกับแสงสว่างภายในบ้าน หลีกเลี่ยงทางต่างระดับ ใช้วัสดุปูพื้นที่ไม่ลื่นและกันกระแทก รวมถึงเสริมอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย เช่น ราวจับ ปุ่มสัญญาณฉุกเฉิน และติดตั้งกล้องวงจรปิด

 

จากสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยของผู้สูงอายุ ทั้งการทรงตัว การมองเห็น หรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งผู้สูงอายุต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นหลัก ทุกพื้นที่จึงควรถูกออกแบบอย่างใส่ใจ บทความนี้ AP Thai จะพาไปดูข้อควรรู้สำหรับการจัดบ้านผู้สูงอายุ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนสามารถสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และมีความสุขในยามหลังเกษียณ ท่ามกลางความอบอุ่นในครอบครัว

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มวางแผนการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุคุยกับหลาน ๆ อย่างมีความสุข

 

ก่อนเริ่มวางแผนการจัดบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ควรประเมินปัจจัยหลายด้านให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น การประเมินสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุ การวางแผนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รวมถึงการกำหนดงบประมาณ

1. ประเมินสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุ

เริ่มจากการประเมินสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเคลื่อนไหว การทรงตัว สายตา รวมถึงโรคประจำตัวต่าง ๆ เพื่อให้ทราบว่าควรวางแผนปรับเปลี่ยนพื้นที่ของบ้านในบริเวณใดเป็นพิเศษ

ตัวอย่างเช่น หากผู้สูงอายุมีปัญหาด้านการเดิน ต้องใช้อุปกรณ์ไม้เท้าหรือรถเข็น ควรใส่ใจกับการออกแบบห้องนอนไว้ชั้นล่าง ห้องน้ำมีราวจับและปุ่มฉุกเฉิน รวมถึงทางเดินต้องกว้างขวางเพียงพอสำหรับการใช้วีลแชร์ หรือหากมีปัญหาสายตา ต้องเน้นแสงสว่างภายในบ้าน เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด

2. วางแผนจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะกับผู้สูงอายุ

การวางแผนจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและสะดวกสบายเป็นหลัก เช่น

 

  • ตรวจสอบสภาพทั่วไปของบ้าน ที่อาจเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น พื้นต่างระดับ บันได หรือห้องน้ำ เพื่อวางแผนการออกแบบให้ปลอดภัย
  • พื้นบ้านต้องเรียบ ไม่ขัดมัน ไม่ใช้วัสดุที่มีความขรุขระ เพื่อป้องกันการสะดุดล้ม
  • ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย เช่น ราวจับในห้องน้ำ สัญญาณขอความช่วยเหลือ
  • มีแสงสว่างภายในบ้านเพียงพอ เพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็น และสวิตช์ไฟควรอยู่ในระดับที่เปิด-ปิดได้สะดวก
  • จัดวางอุปกรณ์และของใช้ให้เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเดิน และอยู่ในตำแหน่งที่ผู้สูงอายุเข้าถึงได้สะดวก
  • มีมุมพักผ่อน ให้ผู้สูงอายุได้ผ่อนคลาย ไม่เหงา เช่น โซนนั่งเล่นที่มองเห็นธรรมชาติ สวนหน้าบ้าน

3. ตั้งงบค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดบ้านผู้สูงอายุ 

สำหรับงบประมาณในการจัดบ้านผู้สูงอายุ อาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตงาน ทั้งนี้ควรแบ่งหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนเป็นระบบ เช่น ค่าต่อเติมบ้านหรือค่ารีโนเวทบ้าน ค่าระบบนิรภัย ค่าเฟอร์นิเจอร์ และอาจแบ่งงบสำรองเพิ่มเติมเอาไว้ สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลัง

การจัดห้องต่าง ๆ ภายในบ้านให้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

1. ห้องนอน

ห้องนอน

 

ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่ผู้สูงอายุใช้เวลาอยู่ค่อนข้างมาก จึงต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบ โดยทั่วไปห้องนอนผู้สูงอายุควรอยู่ที่ชั้น 1 ของบ้าน เพื่อไม่ต้องขึ้น-ลงบันได และยังสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างสะดวก

 

  • ประตูห้อง ความกว้างที่เหมาะสมประมาณ 180 ซม. ควรเป็นบานเลื่อนเปิด-ปิดง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก และมีรางเลื่อนแค่ด้านบน ป้องกันการสะดุดล้มที่พื้น 
  • วัสดุปูพื้น ควรเลือกวัสดุที่ยืดหยุ่นและปลอดสารอันตราย เช่น พื้นไม้คอร์ก หรือพื้นยางสังเคราะห์ผลิตพิเศษ ช่วยรองรับการกระแทกจากอุบัติเหตุ
  • เตียงนอน ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ควรยาวประมาณ 180-200 ซม. สูง 40-50 ซม. ให้พอดีกับระดับเข่า และมีพื้นที่ว่างรอบเตียงทุกด้านประมาณ 90-120 ซม. เพื่อความสะดวกในการเดินหรือใช้รถเข็น
  • พื้นที่หัวเตียง ควรมีโทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสัญญาณช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุไม่คาดคิด
  • ตู้เสื้อผ้า ควรสูงประมาณ 150-170 ซม. เป็นบานเลื่อนที่เปิดง่าย ไม่ฝืด และควรมีพื้นที่ว่างหน้าตู้ประมาณ 120 ซม. สำหรับการลองเสื้อผ้าได้อย่างสะดวก
  • โต๊ะเครื่องแป้ง ควรมีความสูงไม่เกิน 80 ซม. พร้อมช่องใต้โต๊ะสูงประมาณ 65-80 ซม. สำหรับเลื่อนเก้าอี้หรือรถเข็นเข้า-ออกได้อย่างสะดวก และควรมีกระจกเงา ให้ผู้สูงอายุสามารถตรวจสอบตนเองได้อยู่เสมอ

2. ห้องน้ำ

ห้องน้ำผู้สูงอายุ

 

ห้องน้ำเป็นพื้นที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอันดับต้น ๆ ภายในบ้าน จึงควรใส่ใจกับการออกแบบห้องน้ำเป็นพิเศษ

 

  • แสงสว่าง ควรมีแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เช่น ใช้ไฟ Day Light ที่สว่างสดใส หลีกเลี่ยงการใช้ไฟสลัวหรือไฟสีเหลือง เพราะอาจลดประสิทธิภาพการมองเห็น
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
    • อ่างล้างหน้า ควรสูงจากพื้นประมาณ 70-80 ซม. มีพื้นที่ว่างใต้อ่าง ให้สามารถสอดขาหรือรถเข็นเข้าไปได้และไม่ควรใช้วัสดุขอบแหลมคม เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
    • โถสุขภัณฑ์ ที่นั่งควรสูงจากพื้น 43-45 ซม. เพื่อการลุก-นั่งได้สะดวก ทั้งนี้บริเวณใกล้เคียงควรมีราวจับและปุ่มฉุกเฉิน เตรียมพร้อมสำหรับเหตุที่ไม่คาดคิด
    • ตะแกรงกันน้ำ ควรติดตั้งแทนการใช้ขั้นต่างระดับสำหรับการแบ่งโซนเปียก-แห้ง
  • ประตูห้องน้ำ ควรกว้างอย่างน้อย 90 ซม. และเป็นแบบบานเลื่อน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน หากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด คนด้านนอกจะสามารถเข้าช่วยเหลือโดยทันที
  • พื้นที่ห้องน้ำ ไม่ควรกว้างมากจนเกินไปและไม่มีขั้นต่างระดับ ป้องกันการสะดุดล้ม โดยขนาดห้องน้ำที่เหมาะสมประมาณ 1.5x2 เมตร เพียงพอสำหรับการใช้รถเข็นได้อย่างสะดวก
  • วัสดุภายในห้องน้ำ สำหรับผู้สูงอายุ ควรเลือกกระเบื้องห้องน้ำที่ผิวสัมผัสไม่ลื่น ทั้งบริเวณโซนเปียกและโซนแห้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยพิจารณาจากค่ากันความลื่น R10 ขึ้นไป เพราะมีผิวสัมผัสหยาบพอดี ป้องกันการลื่นล้มและเกิดอุบัติเหตุ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกกระเบื้องห้องน้ำได้ที่ เลือกกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำอย่างไร ให้ออกมาสวย ดูแลง่าย และปลอดภัยด้วย
  • อุปกรณ์ช่วยเหลือในห้องน้ำ
    • ราวจับที่ผนัง ช่วยประคองการทรงตัว และป้องกันการลื่นล้ม
    • สัญญาณฉุกเฉิน แบบปุ่มกดที่ใช้งานง่าย สำหรับขอความช่วยเหลือได้ทันที
    • ที่นั่งอาบน้ำ แบบมีพนักแขนและพนักพิง เบาะนุ่ม แข็งแรงและรองรับน้ำหนักได้ดี
    • แผ่นกันลื่น ที่มีคุณภาพ สัมผัสนุ่มสบาย และยึดเกาะกับพื้นแน่นหนา

3. ห้องครัว

ห้องครัว

 

ห้องครัวเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ผู้สูงอายุชอบทำกิจกรรม เช่น การทำอาหารร่วมกับคนในครอบครัว จึงควรออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานง่าย หยิบจับอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

 

  • เคาน์เตอร์ครัว ควรเป็นขอบมน มีความสูงจากพื้นประมาณ 75 ซม. และลึก 50 ซม. เป็นพื้นที่ที่ไม่กว้างหรือแคบมากเกินไป เอื้อมจับใช้งานได้อย่างสะดวก
  • เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ใช้แทนการใช้เตาแก๊ส เพื่อป้องกันอันตรายจากเปลวไฟหรือแก๊สรั่วไหล
  • ชั้นวางของ หรือตู้แขวนอุปกรณ์ในครัว ควรสูงไม่เกิน 170 ซม. ให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
  • ชุดอุปกรณ์ครัว ควรเลือกอุปกรณ์ที่จับถนัดมือ น้ำหนักพอดี และมีสีสันสดใสที่ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
  • การจัดวางของ ควรเก็บเครื่องครัวให้เป็นระเบียบ สะดวกต่อการใช้งาน และไม่นำของมีคมหรือแก้วไว้ที่สูง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

4. ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่น

 

ห้องนั่งเล่นเป็นโซนสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือนั่งเล่นชมวิวภายนอก รวมถึงยังเป็นพื้นที่ที่ลูกหลานและคนในครอบครัวมาใช้เวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน จึงควรให้ความสำคัญกับบรรยากาศ ในขณะเดียวกันก็ต้องปลอดภัยต่อการใช้งาน

 

  • พื้นห้อง ควรเท่ากันทั้งห้องนั่งเล่น ไม่มีขั้นต่างระดับ กว้างพอดี ให้ผู้สูงอายุสามารถเดินหรือใช้งานรถเข็นได้อย่างสะดวก
  • ระดับหน้าต่าง ควรออกแบบให้ผู้สูงอายุสามารถนั่งเก้าอี้หรือโซฟาแล้วยังคงมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ โดยทั่วไปหน้าต่างควรสูงจากพื้นประมาณ 50 ซม.
  • บรรยากาศ ใช้โทนสีสว่าง สร้างอารมณ์เชิงบวก มีหน้าต่างที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้พอดี เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายในการพักผ่อน 
  • เฟอร์นิเจอร์ เช่น ชั้นวางโทรทัศน์ โซฟา โต๊ะวางของ ควรใช้วัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย และไม่มีเหลี่ยมคม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในอีกระดับ โดยควรจัดวางให้เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเดิน

5. ห้องพระ

ห้องพระ

 

ห้องพระเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ผู้สูงอายุมักใช้ทำกิจวัตรประจำวัน ทั้งการสวดมนต์และปฏิบัติธรรม โดยอาจจัดห้องพระไว้ชั้นล่างในที่ที่เป็นมุมสงบ เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงของผู้สูงอายุ

 

  • โต๊ะหมู่บูชา ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำเกินไป และจัดอุปกรณ์สำหรับการไหว้พระ เช่น ธูป เทียน ภาชนะใส่น้ำ ให้อยู่ในระดับที่หยิบใช้งานสะดวก
  • ที่นั่งสำหรับไหว้พระ เลือกใช้เบาะรองนั่งที่มีความนุ่ม นั่งสบาย พร้อมติดตั้งราวจับไว้เพื่อช่วยประคองการทรงตัว
  • บรรยากาศ ใช้โทนสีอ่อน เสริมบรรยากาศแห่งความสงบร่มเย็น จัดแสงไฟให้ดูนุ่มนวล ที่สำคัญควรมีอากาศถ่ายเท ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง

 

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดห้องพระได้ที่ ฮวงจุ้ยห้องพระ กับศาสตร์การเสริมบ้านให้สงบร่มเย็น

8 สิ่งที่ควรทำสำหรับจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุยิ้มอย่างมีความสุข

1. เพิ่มแสงสว่างภายในบ้าน

เพราะผู้สูงอายุมีความสามารถในการมองเห็นลดลงไปตามวัย การออกแบบภายในบ้านจึงควรให้ความสำคัญกับแสงสว่างในบริเวณต่าง ๆ ให้เพียงพอ โดยเฉพาะห้องนอน ห้องน้ำ บันได เพราะเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 

 

  • ควรเลือกใช้หลอดไฟแบบ Day Light ที่เสริมการมองเห็นได้ชัดเจน 
  • สามารถเลือกใช้หลอดไฟแบบ Warm White หากต้องการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลายในห้องนอนได้เช่นกัน เพื่อช่วยให้รู้สึกสบายตาและส่งเสริมการพักผ่อน
  • สามารถติดไฟเซ็นเซอร์อัตโนมัติเสริมตามทางเดิน สำหรับการใช้งานในเวลากลางคืน ทั้งนี้ความสว่างควรอยู่ในระดับที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตาพร่ามัวมากกว่าเดิม

2. ใช้ประตูกว้างอย่างน้อย 90 ซม.

ประตูสำหรับบ้านผู้สูงอายุ

 

ความกว้างประตูที่เหมาะสมต่อการใช้งานของผู้สูงอายุ อยู่ที่ประมาณ 90 ซม. หรือควรมีความกว้างมากกว่ารถเข็น และไม่ควรมีธรณีประตู โดยรูปแบบประตูที่เหมาะสมต่อการใช้งานของผู้สูงอายุมีดังนี้

 

  • ประตูบานแขวน เป็นประตูบานเลื่อนที่ไม่มีรางล่าง ป้องกันการสะดุดล้ม และควรมีที่จับยื่นออกมา แยกกับตัวประตู เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน
  • ประตูบานเปิด ควรเหลือพื้นที่ว่างสำหรับเปิดได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง ประมาณ 150x150 ซม. และเลือกใช้มือจับแบบก้านโยก แทนการใช้ลูกบิด เพราะใช้แรงน้อยกว่า โดยมือจับควรสูงจากพื้น 100-120 ซม. ทั้งนี้ควรติดตั้งราวจับเอาไว้ด้วย เผื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด

3. เลือกปูพื้นแบบกันลื่น

การปูพื้นแบบกันลื่น ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ โดยสังเกตจากค่ากันลื่น ที่มีตั้งแต่ระดับ R9-R13 ซึ่งมีความเหมาะสมต่อพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างกันไป

 

ค่า R พื้นที่ที่เหมาะสม
R9 ปูพื้นห้องทั่วไป เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร
R10 ปูพื้นเปียกน้ำเป็นครั้งคราว เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว โรงจอดรถ
R11 ปูพื้นภายนอกและเปียกน้ำ เช่น ลานซักล้าง ขอบสระว่ายน้ำ
R12 ปูพื้นภายนอกและทางลาดชัน เช่น โรงจอดรถ ทางลาดรถเข็น ทางเดินรอบบ้าน
R13 ปูพื้นลาดชันสูง เปียกน้ำ และพื้นมันง่าย เช่น ทางลาดรถเข็น รอบสระว่ายน้ำ

4. ใช้พื้นลดแรงกระแทกในห้องนอน

ในห้องนอนผู้สูงอายุควรใช้พื้นลดแรงกระแทก หรือวัสดุจำพวกพื้นไม้คอร์ก ที่จะช่วยลดความรุนแรงลง หากเกิดการหกล้มหรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด รวมถึงการเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่มีค่ากันลื่นระดับ R9 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสำหรับการปูพื้นที่แห้งและพื้นห้องทั่วไป อย่างห้องนอนนั่นเอง เพื่อการใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจขึ้นอีกระดับ

5. หลีกเลี่ยงพื้นต่างระดับ

ผู้สูงอายุเต้นในพื้นที่ที่ระดับเสมอกัน

 

พื้นต่างระดับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เสี่ยงต่อการสะดุดล้มและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้น การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ควรทำพื้นทางเดินให้เรียบเสมอกัน หากมีความจำเป็นต้องมีพื้นต่างระดับ ควรใช้ทางลาดชันที่ระดับพอดีต่อการเดินหรือใช้รถเข็นของผู้สูงอายุ

6. ติดตั้งราวจับในบริเวณต่าง ๆ

ราวจับ

 

ควรติดตั้งราวจับในบริเวณสำคัญต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น ห้องน้ำ บันได ทางลาด และทางเดินโดยรอบ เพื่อช่วยในการทรงตัวและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยมีข้อแนะนำในการเลือกราวจับให้เหมาะกับผู้สูงอายุดังนี้

 

  • ควรเลือกวัสดุผิวเรียบ แข็งแรง ทนทาน เช่น ราวจับท่อเหล็ก
  • ควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4.5 ซม.
  • ด้านในราวจับที่อยู่ติดผนัง ควรห่างจากผนังอย่างน้อย 5 ซม.
  • ควรอยู่สูงจากพื้น 70-90 ซม.
  • ควรรองรับน้ำหนักได้อย่างน้อย 120 กก.

7. ติดตั้งปุ่มฉุกเฉิน

ปุ่มฉุกเฉินผู้สูงอายุ

 

การมีปุ่มฉุกเฉิน ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถขอความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งควรติดตั้งในจุดที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ข้างเตียง ห้องน้ำ หรือบริเวณที่ผู้สูงอายุใช้เวลาอยู่เป็นส่วนใหญ่

8. ติดตั้งกล้องวงจรปิด

การมีกล้องวงจรปิด ช่วยให้คนในครอบครัวหรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ตลอดเวลา ควรติดตั้งตามจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ทางเดิน ทางเข้าบ้าน หรือบริเวณที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทั้งนี้การเลือกพื้นที่ติดกล้องวงจรปิดควรคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวด้วย

 

เปิดไอเดียแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ ให้สวยงามน่าอยู่อาศัย ได้ที่นี่!

 

จัดบ้านผู้สูงอายุ ให้ใช้งานสะดวกและปลอดภัย

การจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก เริ่มจากการประเมินสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุ วางแผนจัดสภาพแวดล้อม และกำหนดงบประมาณให้รอบคอบ เพื่อออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับผู้สูงอายุได้ครอบคลุมที่สุด

 

หากใครที่กำลังมองหาโครงการบ้านดี ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สามารถใช้ โปรแกรมคำนวณผ่อนบ้านจากเอพี เพื่อหาโครงการบ้านที่ใช่พร้อมเช็กยอดสินเชื่อและค่างวดในแต่ละเดือนแบบคร่าว ๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางแผนการเงินในอนาคต หรือหากใครมีโครงการในใจแต่ตัดสินใจเลือกไม่ถูก ก็สามารถใช้ โปรแกรมเปรียบเทียบโครงการที่อยู่อาศัยจากเอพี ที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของแต่ละโครงการได้ง่ายมากขึ้น

เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต

เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ

RELATED ARTICLES