MAIN POINT
- การใช้เทียนหอมไม่เพียงช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย แต่ยังส่งผลดีต่ออารมณ์และจิตใจ เพราะมีกลิ่นที่กระตุ้นความสงบและลดความเครียด เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ที่ช่วยให้จิตใจสงบและนอนหลับดีขึ้น หรือกลิ่นซิตรัสที่ช่วยเพิ่มพลังและความสดชื่นให้กับวันทำงาน เทียนหอมจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน
- เทียนหอมมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของชนิดและกลิ่น สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการทั้งเทียนไขถั่วเหลืองที่ให้การเผาไหม้ยาวนานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือเทียนกลิ่นไม้จันทน์ที่เหมาะกับบรรยากาศหรูหรา นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และช่วยฟื้นฟูบรรยากาศภายในบ้าน ช่วยให้ทุกห้องในบ้านเป็นพื้นที่ที่อบอุ่น น่าผ่อนคลาย และสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย
รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทียนหอม
ใคร ๆ ก็ชอบกลิ่นหอม ยิ่งถ้าบ้านเราอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม ก็ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่ขึ้นอีกเป็นกอง ตัวช่วยสำคัญที่จะสร้างกลิ่นหอมให้กับบ้านคงหนีไม่พ้นไอเทมยอดฮิตอย่างเทียนหอม เพราะสะดวกและหาซื้อได้ง่าย ทั้งยังมีกลิ่นหลากหลายเพื่อช่วยเปลี่ยน mood แต่ละห้องให้มีความแตกต่างกัน AP Thai จะพาทุกคนมารู้จักกับเทียนหอม ก้อนเทียนเล็ก ๆ เป็นได้ทั้งสิ่งของประดับตกแต่งบ้าน ตลอดจนเป็นตัวช่วยสำคัญที่เปลี่ยนให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น
เทียนหอม คืออะไร? ทำไมจึงมีกลิ่นหอม
‘เทียนหอม’ คือ เทียนที่มีกลิ่นหอมอันเกิดจากการผสมกลิ่นหอมระเหย (Fragrance Oils) หรือ น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential Oils) เข้าไปในเนื้อเทียน โดยเจ้าพวกกลิ่นหอมเหล่านี้จะระเหยออกมาพร้อมกับความร้อนเมื่อเทียนละลาย ทำให้เกิดกลิ่นหอมที่ช่วยสร้างบรรยากาศแตกต่างกันออกไปตามกลิ่น
นอกจากนี้ เทียนหอมยังมีหลากหลายชนิดตามชนิดของไขเทียน ซึ่งสามารถส่งผลต่อความหอมและประสิทธิภาพในการใช้งาน เช่น เทียนไขถั่วเหลืองที่เผาไหม้ช้าและให้กลิ่นหอมมากขึ้น หรือเทียนขี้ผึ้งที่ให้กลิ่นธรรมชาติอ่อน ๆ ทำให้เทียนหอมกลายเป็นไอเทมที่นอกจากใช้ให้แสงสว่างแล้ว ยังเป็นการบำบัดความผ่อนคลายด้วยกลิ่นที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
กลิ่นของเทียนหอม เลือกได้ตามความชอบ
กลิ่นยอดฮิตของเทียนหอมอย่างกลิ่นลาเวนเดอร์ โดยกลิ่นนี้ส่งผลต่อระบบประสาท มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการบรรยากาศเงียบสงบในห้องนอน ชวนให้เคลิ้มหลับสบายทุกคืน กลิ่นลาเวนเดอร์ยังเป็นที่นิยมในการใช้งานสปาและ Aroma Therapy (อโรมาเธอราพี) ช่วยปลอบประโลมใจ ทำให้รู้สึกสบาย หลับลึก และสดชื่นในเช้าวันถัดไป
2. กลิ่นมะลิ (Jasmine)
กลิ่นมะลิเป็นประเภทของดอกไม้ขาวที่มักนิยมมาใช้ในงานสร้างกลิ่นหอมของเทียนหอม เพราะให้ความอ่อนหวานและสดชื่น มีผลดีต่อจิตใจในการกระตุ้นความสุข ความรู้สึกเบาสบาย ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมเรื่องความทรงจำ เนื่องจากกลิ่นมะลิมีความสะอาดและบริสุทธิ์ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่นั่งเล่นหรือมุมอ่านหนังสือ เพื่อให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
3. กลิ่นดอกกุหลาบ (Rose)
กลิ่นกุหลาบให้ความหรูหราและโรแมนติกไปพร้อม ๆ กัน ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเติมเต็มความสุขได้มากขึ้น เทียนหอมกลิ่นนี้เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศโรแมนติกหรือโอกาสพิเศษกับคนสำคัญ เพราะกลิ่นกุหลาบนั้นเป็นตัวแทนของความรักและความอบอุ่น จึงเหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องอาหารที่ต้องการบรรยากาศที่หรูหรา
4. กลิ่นโรสแมรี่ (Rosemary)
กลิ่นโรสแมรี่เป็นที่รู้จักว่าช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว เพิ่มสมาธิ และสร้างแรงจูงใจในการทำงาน จึงทำให้เทียนหอมกลิ่นนี้เหมาะกับการใช้งานในช่วงเวลาที่ต้องการความกระฉับกระเฉง สดชื่นมากกว่าเดิม เช่น ใช้ในห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือของเด็ก ๆ นอกจากนี้กลิ่นหวาน ๆ ของโรสแมรี่ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าของสมองและเพิ่มความรู้สึกสดชื่น ทำให้บรรยากาศการทำงานมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
5. กลิ่นซิตรัส (Citrus)
เติมเอเนอร์จี้ด้วยเทียนหอมกลิ่นซิตรัส เช่น เลมอน ส้ม และมะกรูด เหมาะสำหรับการจุดเติมไฟให้กับเราในช่วงเช้าก่อนทำงาน หรือเวลาที่รู้สึกอ่อนล้าหลังเลิกงาน เพราะนอกจากกลิ่นนี้จะช่วยกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่าและส่งเสริมให้รู้สึกมีพลัง กลิ่นซิตรัสยังช่วยลดความเครียดและทำให้บรรยากาศในห้องมีความสดใส เหมาะสุด ๆ กับห้องทำงานหรือห้องรับแขกที่ต้องการบรรยากาศสดชื่น
6. กลิ่นยูคาลิปตัส (Eucalyptus)
กลิ่นยูคาลิปตัสมีคุณสมบัติช่วยในการหายใจให้สะดวกขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ หรือเมื่อรู้สึกอึดอัด หรือหายใจไม่เต็มที่ ยิ่งไปกว่ากลิ่นหอม ยูคาลิปตัสยังช่วยลดอาการคัดจมูก และให้ความรู้สึกเย็นสบาย เทียนหอมกลิ่นนี้จึงเหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำ หรือห้องนอนเพื่อให้อากาศสะอาดและผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับฝันดีในทุกคืน
7. กลิ่นไม้จันทน์ (Sandalwood)
เทียนหอมกลิ่นไม้จันทน์ชวนให้เรานึกถึงห้องสไตล์โมเดิร์น พร้อมด้วยโซฟาเครื่องหนัง และเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก เพราะกลิ่นไม้จันทน์ให้ความรู้สึกอบอุ่น คลาสสิก ช่วยสร้างความมั่นคงภายในจิตใจ ส่งเสริมสมาธิ กลิ่นไม้จันทน์ยังเป็นกลิ่นที่เหมาะกับบรรยากาศที่ต้องการความสงบลึกซึ้ง เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องทำสมาธิ หรือพื้นที่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศสงบ
8. กลิ่นวานิลลา (Vanilla)
หวานแต่ไม่เลี่ยน อบอุ่นแต่ไม่อึดอัดไปด้วย ‘กลิ่นวานิลลา’ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและสบายใจ เทียนหอมกลิ่นวานิลลาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความสุขภายในบ้าน ความพิเศษของกลิ่นวานิลลา ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ความรู้สึกเป็นกันเอง เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่นและในห้องนอน เพื่อให้บรรยากาศในบ้านอบอุ่นสำหรับการต้อนรับแขกคนสำคัญ หรือต้อนรับคนรักที่กลับบ้านมาในทุกเย็นก็ได้เช่นกัน
ชนิดของเทียนหอม เลือกใช้ได้ตามต้องการ
1. พาราฟิน (Paraffin Wax)
พาราฟินเป็นไขเทียนที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย มีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย จุดเด่นของพาราฟิน คือ สามารถเก็บกลิ่นหอมได้ดี และมีการเผาไหม้ที่ร้อนพอสมควร ทำให้เหมาะกับการใช้ในการทำเทียนหอมทั่วไป อย่างไรก็ตาม การเผาไหม้ของพาราฟินอาจปล่อยสารเคมีบางชนิดที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นแล้ว ใครอยากใช้เทียนหอมชนิดนี้จึงควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทสะดวกเป็นหลัก
2. ไขถั่วเหลือง (Soy Wax)
ไขถั่วเหลืองเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นธรรมชาติและเผาไหม้ช้า ทำให้เทียนหอมใช้งานได้นานขึ้น ไขถั่วเหลืองสามารถละลายที่อุณหภูมิต่ำ ทำให้การกระจายกลิ่นดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความร้อนมาก นอกจากนี้ยังไม่ปล่อยสารพิษและไม่สร้างเขม่าควันเหมือนพาราฟิน เหมาะสำหรับคนที่รักสิ่งแวดล้อม และต้องการใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติ
3. ไขมะพร้าว (Coconut Wax)
ไขมะพร้าวเป็นอีกหนึ่งไขธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง ให้การเผาไหม้ที่สะอาดและยาวนาน นอกจากนี้ไขมะพร้าวยังมีความนุ่ม สามารถหลอมที่อุณหภูมิต่ำและเก็บกลิ่นได้ดี บางครั้งใช้ผสมกับไขถั่วเหลืองเพื่อเพิ่มความคงทนและประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ไขมะพร้าวยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านอีกด้วย
4. ไขขี้ผึ้ง (Bees Wax)
ไขขี้ผึ้งเป็นไขธรรมชาติที่มีมนุษย์เราหยิบมาใช้ประโยชน์อย่างยาวนานตั้งแต่ยังไม่รู้จักการทำเทียนหอมด้วยซ้ำไป เพราะไขขี้ผึ้งนั้นมีกลิ่นหอมธรรมชาติของขี้ผึ้ง มีการเผาไหม้ที่ไม่ปล่อยควันดำ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้บรรยากาศสดชื่นโดยการปล่อยไอออนลบที่ช่วยฟอกอากาศ อีกความพิเศษ คือ เทียนที่ทำจากไขขี้ผึ้งจะมีอายุการใช้งานนาน จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการกลิ่นธรรมชาติ และความทนทาน จุดติดได้นาน
5. ไขข้าวหอมมะลิ (Jasmine Rice Wax)
รู้หรือไม่ว่า ข้าวหอมมะลิที่เรากินกันสามารถนำมาทำเป็นเทียนหอมได้นะ เพราะไขข้าวหอมมะลิเป็นไขเทียนที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบจากเอเชีย มีคุณสมบัติการเผาไหม้ที่สะอาดและไม่สร้างเขม่า เป็นไขที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องหอมอื่น ๆ ได้
6. ไขปาล์ม (Palm Wax)
อีกชื่อที่มักได้ยินบ่อย ๆ คือ ไขปาล์ม เพราะคุณสมบัติที่ทำให้เกิดลวดลายสวยงามบนเทียนเมื่อแห้ง จึงมักใช้ทำเทียนที่ต้องการความสวยงามเฉพาะ นอกจากนี้ไขปาล์มยังเผาไหม้สะอาด ไม่มีควันดำ และไม่มีสารเคมีตกค้าง อย่างไรก็ตาม การใช้ไขปาล์มควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีการผลิตที่ยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
7. เจล (Gel Wax)
เจลเป็นไขเทียนที่มีลักษณะใส ทำจากสารประกอบของแร่และน้ำมัน สามารถมองเห็นการตกแต่งภายในได้ชัดเจน เช่น เปลือกหอยหรือดอกไม้ เทียนเจลมีการเผาไหม้ที่ยาวนาน แต่ไม่สามารถเก็บกลิ่นได้ดีเท่าไขชนิดอื่น ๆ จึงนิยมใช้เพื่อความสวยงามมากกว่าการให้กลิ่นหอม
รูปแบบของเทียนหอม เลือกใช้ได้ทุกโอกาส
1. เทียนแบบแท่ง (Taper Candle)
เทียนหอมแบบแท่งมีลักษณะเรียวยาว ใช้สำหรับตั้งในเชิงเทียนหรือคบเพลิง มีให้เลือกหลายขนาดตามความสูง นิยมใช้ในการตกแต่งโต๊ะอาหารหรือพิธีการสำคัญ สามารถใช้ในการสร้างบรรยากาศหรูหรา และเป็นทางการได้ เช่น พบปะทานอาหารกับคู่ค้าธุรกิจสำคัญ เนื่องจากให้แสงสว่างที่อ่อนนุ่มและมีเสน่ห์
2. เทียนก้อนกลม (Pillar Candle)
เทียนหอมก้อนกลมมีลักษณะทรงกระบอกใหญ่และไม่ต้องการที่ยึดพิเศษ ทำให้ใช้งานสะดวก สามารถตั้งตรงบนพื้นผิวได้เอง เทียนชนิดนี้เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องหรือเป็นของขวัญเพราะมีความคงทนและเผาไหม้ได้นาน
3. เทียนในแก้ว (Glass Candle, Container Candle, Jar Candle)
เทียนหอมในแก้วเป็นเทียนที่นิยมใช้ในบ้าน เพราะปลอดภัยกว่าเทียนแบบอื่น ๆ และสามารถเก็บกลิ่นหอมได้นาน นอกจากนี้แล้ว เทียนในแก้วยังมีดีไซน์ที่หลากหลาย เช่น ขวดแก้วใสขนาดเล็ก กระปุก รวมถึงลักษณะของขวดแก้วที่แตกต่างกันออกไป เช่น ทรงหัวใจ ทรงเหลี่ยม จึงสามารถใช้ตกแต่งห้อง สร้างบรรยากาศได้ดี
สำหรับใครที่อยากสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับบ้านหรือเพิ่มอารมณ์ดี ๆ ในวันพักผ่อน การทำเทียนหอมเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวผ่านกลิ่นที่ชอบแล้ว ยังเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับครอบครัว หรือคนรักได้ดีอีกด้วย โดย AP Thai ได้รวบรวมอุปกรณ์พร้อมขั้นตอนการทำแบบง่าย ๆ มาให้แล้ว ใครที่อยากเริ่มต้นทำเทียนหอมเองสามารถลองทำตามได้เลย
วิธีทำเทียนหอม ใช้เองก็ได้ เป็นของขวัญก็ดี
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- ไขเทียน: เลือกใช้ไขตามความต้องการ เช่น ไขถั่วเหลืองหรือพาราฟิน
- น้ำมันหอมระเหยหรือกลิ่นเทียน: สำหรับเพิ่มกลิ่นหอมที่ต้องการ
- ไส้เทียน: ใช้เป็นตัวนำแสงและความร้อน ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับขนาดของเทียน
- แก้วหรือภาชนะ: สำหรับใส่เทียนหากต้องการทำเทียนในแก้ว
- หม้อต้มสองชั้น: สำหรับละลายไขเทียนให้เป็นของเหลว
- เทอร์โมมิเตอร์: สำหรับวัดอุณหภูมิขณะละลายไขเทียนเพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป
วิธีทำเทียนหอม
- ละลายไขเทียน: ใส่ไขเทียนลงในหม้อต้มสองชั้น ใช้ความร้อนต่ำและคนเรื่อย ๆ จนไขละลายเป็นของเหลว
- เติมกลิ่น: เมื่อไขละลายได้ที่ประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ใส่น้ำมันหอมระเหยที่เลือกลงไป คนให้เข้ากัน
- เตรียมไส้เทียน: ติดไส้เทียนที่กลางภาชนะที่จะใช้ใส่เทียน อาจใช้กาวหรือแถบเทปเพื่อยึดไส้ให้ตรง
- เทไขลงภาชนะ: เทไขที่ผสมกลิ่นเรียบร้อยลงในภาชนะอย่างช้า ๆ ระวังไม่ให้เกิดฟองอากาศ
- ปล่อยให้เย็น: รอให้ไขเย็นและแข็งตัวเต็มที่ (ประมาณ 24 ชั่วโมง) จากนั้นตัดปลายไส้เทียนให้มีความยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งาน
ความมหัศจรรย์ของเทียนหอม มีประโยชน์มากกว่าให้แสงสว่าง
1. สร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่
กลิ่นหอมของเทียนช่วยทำให้บ้านรู้สึกอบอุ่นและน่าอยู่ขึ้น เพราะกลิ่นหอมแบบอ่อน ๆ จากเทียนที่เลือกใช้ในบ้านช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย หรือกระตุ้นความสดชื่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกลิ่นที่เราเลือกเอง เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์จะช่วยทำให้รู้สึกสงบ ในขณะที่กลิ่นซิตรัสจะช่วยกระตุ้นความสดชื่น สร้างบรรยากาศในบ้านให้เหมาะกับการพักผ่อน
2. เพิ่มความโรแมนติกและความหรูหรา
อีกหนึ่งบรรยากาศที่หลายคนมักนึกถึง คือ ‘บรรยากาศที่โรแมนติกและหรูหรา’ เทียนหอมนิยมนำมาใช้งานในการตกแต่งหรือจัดบรรยากาศเพื่อมื้อค่ำหรือโอกาสพิเศษ เพราะภายใต้แสงเทียนนวลที่ส่องสว่างเบา ๆ ควบคู่กับกลิ่นหอมอ่อน ๆ เช่น กลิ่นดอกกุหลาบหรือวานิลลา สามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหรา และอบอุ่นให้กับบรรยากาศของสถานที่ได้ดี เหมาะสำหรับเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นพื้นที่สุดพิเศษกับคนรัก
3. ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์พร้อมเพิ่มความสดชื่น
เทียนหอมมีประสิทธิภาพในการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอับในห้อง หรือกลิ่นอาหารที่ตกค้าง เพราะแม้ว่าเราจะทำความสะอาดดีแค่ไหนก็อาจจะยังมีกลิ่นตกค้างได้ การจุดเทียนหอม โดยเลือกกลิ่นที่เน้นผลไม้รสเปรี้ยวเป็นหลัก เช่น กลิ่นซิตรัสหรือยูคาลิปตัส ก็มีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้บรรยากาศสดชื่นขึ้น จึงเหมาะสำหรับใช้งานในห้องครัวหรือห้องน้ำ
4. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
เทียนหอมยังช่วยทำให้เรานอนหลับสบายได้ด้วย อย่างเทียนหอมที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ วานิลลา หรือดอกไม้ขาวอื่น ๆ เป็นที่รู้จักในเรื่องการช่วยให้นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ กลิ่นหอมละมุนนี้ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกสงบ และลดความตึงเครียด ช่วยให้การนอนหลับลึกและผ่อนคลาย
5. กระตุ้นสมองให้ผ่อนคลาย
กลิ่นหอมที่มาจากเทียนหอม เช่น โรสแมรี่หรือยูคาลิปตัส จะช่วยกระตุ้นสมองให้ผ่อนคลายและลดความเครียด เทียนหอมสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียนรู้ โดยกลิ่นเหล่านี้มีส่วนช่วยลดความเหนื่อยล้า และกระตุ้นให้มีสมาธิในการทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับการจุดเพื่ออ่านหนังสือก่อนนอน หรือระหว่างทำงาน
6. ช่วยไล่ยุงและแมลง
ยิ่งกว่าความหอมที่ชวนให้เราอยากเคลิ้มหลับ เทียนหอม โดยเฉพาะกลิ่นยูคาลิปตัสหรือซิตรัสสามารถช่วยไล่แมลงและยุงได้ดี เหมาะสำหรับการใช้ในบริเวณที่มีแมลงเยอะหรือพื้นที่กลางแจ้ง กลิ่นหอมเหล่านี้ยังไม่ทำให้เกิดสารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
เทียนหอม มอบเป็นของขวัญได้หลากหลายโอกาส
เทียนหอมเป็นของขวัญที่เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นของขวัญสำหรับวันเกิดหรือของขวัญในเทศกาลต่าง ๆ เทียนหอมมีหลายแบบ หลายขนาดให้เลือก และยังสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการเลือกสรรของผู้มอบได้ โดยบางครั้งอาจจะมีการสั่งทำพิเศษ เขียนชื่อ หรือเลือกทำกลิ่นใหม่ที่เหมาะกับงานหรือเฉพาะเจาะจงเหมาะกับผู้รับไปด้วยก็ได้ ยิ่งเพิ่มความพิเศษและความทรงจำให้กับเทียนหอมมากขึ้น
ให้บ้านเป็นพื้นที่ดี ๆ แห่งการพักผ่อน
ยกระดับคุณภาพชีวิตให้สุขสบายไปอีกขั้น ให้ชีวิตรายล้อมไปด้วยความสุขจากกลิ่นหอม ๆ ของ ‘เทียนหอม’ สะท้อนตัวตนผ่านกลิ่นที่เหมาะตามไลฟ์สไตล์และความชอบของเรา เพราะบ้านคือพื้นที่แห่งการพักผ่อน และเป็นพื้นที่ที่เราได้เป็นตัวเราที่สุด เช่นเดียวกับบ้านและคอนโดของ AP Thai ออกแบบมาเพื่อรองรับ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตดี ๆ เติมเต็มความสุข ให้ทุกวันที่ได้กลับบ้านเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย
เพิ่มความรู้เรื่องการดูแลบ้านให้บ้านหอมน่าอยู่ขึ้น ได้ที่นี่!
- เคล็ดลับเลือกน้ำหอมในห้องนอน เพิ่มมู้ดการพักผ่อนให้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น
- วิธีทำให้ห้องหอมตลอดวัน จนไม่อยากออกไปไหน
- 10 วิธีแก้ห้องเหม็นอับ ช่วยให้ห้องสะอาด หอมสดชื่นอีกครั้ง
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ