ณ ปัจจุบันต้องบอกว่าธุรกิจ Start Up ของบ้านเรานั้น เติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจเล็กๆ ที่มีจำนวนคนไม่ถึง 20 คนแบบนี้ ก็ได้หันมาปรับรูปแบบเลือกสถานที่ทำงานให้แตกต่างออกไปจากธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีจำนวนพนักงานเยอะๆ ซึ่งสถานที่ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เหมาะกับธุรกิจเล็กๆ เป็นอย่างมาก และสถานที่ที่ว่านั้นก็คือ Home Office นี่เอง
ถึงอย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่ามีคนจำนวนมากยังไม่รู้ความหมายหรือไม่มั่นใจว่าแท้จริงแล้วสถานที่ทำงานอย่าง Home Office นั้นเป็นอย่างไร ใช่การทำงานจากที่บ้านหรือไม่ และถ้าอยากเลือกสถานที่ทำงานแบบนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง ดังนั้น บทความจะมาเฉลยกันว่า Home Office คืออะไร!
Home Office คืออะไร?
แล้วสรุปว่า Home Office คืออะไรกันแน่? หากให้อธิบายแบบสั้นๆ และเข้าใจง่ายก็คือ การเปลี่ยนแปลงบ้านให้กลายเป็นสถานที่ทำงาน โดยการออกแบบและตกแต่งให้ใกล้เคียงกับออฟฟิศ รวมทั้งต้องมีอุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ในการทำงาน ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น คุณยังสามารถอาศัยหลับนอนอยู่ในบ้านนี้อีกด้วย แต่ถ้าหากเป็นธรุกิจที่มีพนักงานจำนวนหลายคนก็อาจจะต้องตัดสินใจที่เลือกเช่าทาวน์โฮมหรือเช่าบ้าน เพื่อเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ทำงาน
ทำไม Home Office จึงเป็นที่นิยม
จากที่ได้เกริ่นไปแล้วในข้างต้นว่า Home Office คืออะไร ตอนนี้เชื่อว่าน่าจะเริ่มเห็นภาพและเข้าใจคอนเซ็ปต์กันไม่มาก็น้อย แต่ว่าทำไม Home Office จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันล่ะ? นั้นก็เป็นเพราะว่าการทำงานในบ้านจะทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากการทำงานในสำนักงานบนตึกสูงๆ ด้วยบรรยากาศสบายๆ ที่เสมือนอยู่บ้าน ส่งผลให้การทำงานของคุณหรือพนักงานเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานไม่รู้สึกกดดัน
ยิ่งถ้าคุณมีธุรกิจเล็กๆ ในเชิง SME การทำงานรูปแบบของ Home Office จึงเหมาะสม เพราะหากธุรกิจเล็กๆ ต้องไปเช่าสำนักงานใหญ่ ที่ราคาสูงลิบลิ่วก็เห็นว่าจะไม่ไหว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Home Office ถึงได้เป็นที่นิยม และแม้แต่ธุรกิจของคนรุ่นใหม่เองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสถานที่การทำงานมากนัก จะเห็นได้ว่าหลายคนทำงานจากร้านกาแฟ หรือ Co-Working Space ซึ่งเป็นการทำงานที่ให้ความรู้สึกว่าได้รับอิสระและมีความยืดหยุ่น แน่นอนว่ารวมถึงการทำงานในลักษณะ Home Office เองก็ทำให้รู้สึกถึงความสะดวกสบาย เป็นกันเองและไม่ตึงเครียด ทั้งนี้ เราได้แยกออกมาให้ดูกันว่าข้อดีและข้อจำกัดของ Home Office มีอะไรบ้าง
ข้อดี
- สร้าง Productivity ให้พนักงานและตัวคุณเอง
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่
- การทำ Home Office ทำให้คุณสามารถตกแต่ง ออกแบบได้ตามความชอบ
- หากทำการซื้อทาวน์โฮมเพื่อใช้ทำงาน จะทำให้กลายเป็นทรัพย์สินของบริษัท
ข้อจำกัด
- อาจจะมีพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอต่อจำนวนพนักงาน
- ไม่สามารถทำการขยายพื้นที่ได้หากธุรกิจโตขึ้น
วิธีการสร้าง Home Office ไว้ในบ้าน
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจกับความหมาย Home Office คืออะไรไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนน่าจะพร้อมลงมือเปลี่ยนแปลงบ้านที่อยู่อาศัยให้มีเนื้อที่ที่เหมาะสมกับการทำงานให้ตัวคุณเอง หรือหากคุณมีธุรกิจและมีพนักงานก็สามารถนำประเด็นหลักๆ นี้ไปใช้ในการทำ Home Office ได้เช่นกัน
1.หามุมที่ใช่และแบ่งเนื้อที่ให้เหมาะสม
ในกรณีที่คุณทำงานคนเดียว การบริหารและคำนวณเนื้อที่น่าจะไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรหนัก แต่หากคุณมีจำนวนพนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณเอง ควรคำนวณพื้นที่ของเนื้อที่บ้านก่อนว่าเพียงพอต่อการรับรองหรือไม่ สำหรับห้องนั่งทำงานอาจจะกำหนดพื้นที่ประมาณ 35.14 ตารางเมตรต่อ 14 คน หรือหากเป็นห้องประชุมก็อาจจะกำหนดให้อยู่ที่ 1.12 ตารางเมตรต่อคน ทั้งนี้ ต้องจัดสรรเนื้อที่ให้ส่วนอื่นๆ อีกด้วย เช่น ห้องสำรองเพื่อเก็บเอกสาร เก็บของ ห้องประชุม เป็นต้น
นอกจากการจัดสรรเนื้อที่ให้เพียงพอกับจำนวนคนแล้ว ก็ต้องเลือกมุมจัดโต๊ะหรือจัดเก้าอี้ให้เหมาะสมอีกด้วย เช่น หากคุณตั้งโต๊ะทำงานติดกับห้องน้ำ อาจจะไม่เหมาะสมมากนัก หรือตั้งโต๊ะทำงานในมุมอับ แสงเข้าไม่ถึง ส่งผลเสียต่อดวงตาและส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานแย่ลงนั้นเอง
2.เลือกสไตล์การตกแต่งที่ชอบ
การทำ Home Office ออกมาให้เพอร์เฟกต์ถูกใจต้องออกแบบ เลือกสไตล์การตกแต่งที่คุณชื่นชอบ เช่น หากคุณชอบการตกแต่งแบบสะอาดสะอ้าน สีขาวคลีนๆ แน่นอนว่าต้องแต่งแบบมินิมอล แต่หากคุณชอบความหรูหรา ทันสมัยก็ต้องเลือกแนวโมเดิร์น หรือถ้าอยากให้มีความสนุกสนานก็เลือกสีสันแบบคัลเลอร์ฟูลไปเลย
ทั้งนี้ การตกแต่ง Home Office ไม่ควรใช้ของตกแต่งที่เยอะมากจนเกินไป เพราะควรเก็บเนื้อที่ไว้สำหรับเป็นพื้นที่ทำงาน และมีบริเวณพื้นที่สีเขียวเล็กน้อย เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และสีเขียวยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ความสงบ ซึ่งในทางหลักฮวงจุ้ยเองหากมีสีเขียวในบริเวณการทำงานยังสื่อถึงการเจริญเติบโตอีกด้วย
เมื่อพูดถึงหลักฮวงจุ้ย คุณยังสามารถตกแต่งออกแบบ ตามหลักฮวงจุ้ยได้เช่นกัน โดยอาจจะเลือกรูปภาพมงคลมาตกแต่งผนังห้อง หรืออาจจะเป็นการจัดโต๊ะทำงาน การหันโต๊ะทำงานไปตามที่ทิศทางที่เหมาะสมล้วนแต่เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับการทำงาน
3.อุปกรณ์สำนักงานต้องพร้อม
ไม่ว่าจะเป็นการทำ Home Office โดยเลือกเช่าทาวน์โฮมเพื่อปรับเป็นสถานที่ทำงาน หรือจัดบ้านของตัวเองให้เป็นสถานที่ทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องเตรียมความพร้อมหาซื้ออุปกรณ์การทำงานที่เหมาะสม เช่น เก้าอี้ทำงานที่ช่วยให้การนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงนั่งได้อย่างสบาย ไม่ปวดหลัง ปวดคอ หรือโต๊ะทำงานที่เหมาะสม คอมพิวเตอร์ ตู้เก็บเอกสาร เพื่อสร้างความเป็นระเบียบให้บริเวณการทำงานของคุณเอง เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องปริ้น อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก ปลั๊กพ่วง เป็นต้น
สุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำงานยุคนี้คือ อินเตอร์เน็ต ซึ่งก็ถือว่าในปัจจุบันกลายมาเป็นสิ่งที่หลายๆ ออฟฟิศขาดไม่ได้เลย และควรเลือกอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็ว เสถียร พร้อมเชื่อมต่อหลายๆ อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
4.สิ่งอำนวยความสะดวกต้องมี
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ว่านี้ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทของบริษัทเอง แต่เชื่อเถอะว่าหากมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ รับรองว่าพนักงานต้องปลื้มและทำให้การทำงานมีความสุข หรือแม้แต่ตัวคุณเองก็รู้สึกแฮปปี้เช่นกัน และสิ่งที่ว่านี้คือ มุมเบรคทานขนม มุมกาแฟ มุมนั่งเล่นตอนพักเบรค หรือจะเพิ่มเติมมุมอ่านหนังสือให้กับพนักงานคนไหนที่สนใจ ก็สามารถเข้ามานั่งอ่านหนังสือคลายเครียดได้ และที่สำคัญควรอำนวยความสะดวกให้พนักงานสำหรับที่จอดรถให้เพียงพอต่อความต้องการ
การมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานดีขึ้น เพราะในขณะทำงานพนักงานหรือตัวคุณเองอาจจะเกิดความเครียด หรือคิดงานไม่ออก สมองไม่แล่นก็สามารถนั่งพักผ่อนตามจุดต่างๆ ได้ และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของคอนเซ็ปต์ Home Office สำหรับคนรุ่นใหม่
5.ไม่ควรละเลยความสะอาด
จะอยู่ที่ไหนความสะอาดก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ ถึงแม้ว่า Home Office ของคุณเป็นสถานที่ที่คุณเช่าเพื่อใช้ทำงานอย่างเดียว หรือหากสถานที่นั้นคุณต้องใช้อยู่อาศัยด้วยแล้วละก็ การรักษาความสะอาดถือว่าเป็นข้อควรปฎิบัติที่ควรให้ความสำคัญ
โดยสามารถกำหนดข้อควรปฏิบัติที่สำคัญเล็กๆ น้อย เพื่อแจ้งให้พนักงานท่านอื่นรับทราบถึงการรักษาความสะอาด เช่น การเข้าห้องน้ำ การรับประทานอาหาร แยกขยะ หรือมุมพักเบรค ซึ่งในการทำความสะอาดอื่นๆ เช่น พื้น ห้องน้ำ คุณอาจจะจ้างแม่บ้านรายเดือนมาช่วยจัดการได้ หรือหากคุณทำงานคนเดียวและคิดว่าสามารถทำความสะอาดภายใน Home Office ของคุณเองได้ก็สามารถทำตามวิธีการทำความสะอาดบ้านเพียง 6 ขั้นตอนนี้ ก็จะทำให้บ้านนั้นเหมือนใหม่ กลิ่นหอม สดชื่น
หากบ้านที่คุณอยู่ไม่พร้อมที่จะทำเป็น Home Office
การปรับห้องสักห้องหนึ่งภายในบ้านเพื่อทำเป็น Home Office นั้นอาจจะไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าหากว่าธุรกิจของคุณเริ่มเติบโต และจำเป็นต้องมีทีมงานมากขึ้น อาจทำให้ Home Office ในบ้านที่คุณอาศัยอยู่อาจมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับรองรับคนจำนวนมาก
AP Thai ขอแนะนำโครงการ DISTRICT เทพารักษ์ โฮมออฟฟิศ 3 ชั้นสไตล์โมเดิร์น ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน อีกทั้งยังเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง รายล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวก และศูนย์การค้าหลากหลาย (เพียง 15 นาทีถึง Mega Bangna) ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.79 ล้านบาทเท่านั้น! อ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่
Home Office คือออฟฟิศแนวใหม่ที่มีบรรยากาศโดยรอบแบบผ่อนคลาย มีความสบายและเป็นกันเอง แน่นอนว่าหากคุณมีเนื้อที่เพียงพอต่อการทำ Home Office ในบ้าน ก็เสมือนว่าคุณได้นั่งทำงานเพลินๆ ในบ้านของตัวเอง แต่หากเนื้อที่ไม่เพียงพอ การตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าทาวน์โฮมเพื่อตกแต่งเป็นสถานที่ทำงาน ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เชื่อว่าการทำงานในสถานที่เสมือนบ้านแห่งนี้จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้พนักงานและคุณได้