คราบเหลืองบนเสื้อขาวเป็นปัญหาหนักใจของทุกเพศทุกวัย เสื้อขาวที่ใส่แล้วดูสวย ดูดี ดูขับผิวนั้น เมื่อใส่ไปได้สักพัก สีขาวกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มีทั้งรอยคราบเหลือง คราบสกปรก หรือมีสีหมองลงอย่างเห็นได้ชัด บทความนี้รวม 10 วิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว โดยใช้ของใกล้ตัว แบบไม่ต้องเปลืองงบมาฝากกัน
1. น้ำส้มสายชู
การใช้น้ำส้มสายชูขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว เป็นตัวช่วยตัวแรกที่สามารถกำจัดคราบเหลือง คราบสกปรกต่างๆ เปลี่ยนเสื้อสีหมองๆ ให้กลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีกรดอะซิติก (Acetic Acid) ที่ช่วยละลายสิ่งตกค้าง ช่วยให้ผ้าขาวสะอาดมากยิ่งขึ้น
วิธีใช้
ให้นำเสื้อผ้าขาวใส่ลงไปในกะละมัง จากนั้นใส่น้ำส้มสายชูลงไปประมาณครึ่งถ้วยตวง พร้อมกับใส่ผงซักฟอกและน้ำเปล่า แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยเริ่มซัก เพียงเท่านี้เสื้อก็จะกลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง
ข้อดี
- เป็นวิธีที่มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน สามารถหาซื้อน้ำส้มสายชูได้ตามร้านขายของทั่วไป
- น้ำส้มสายชูมีกรดอะซิติกอยู่ก็จริง แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อย จึงไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อผ้า
- เมื่อใช้น้ำส้มสายชูขจัดคราบเหลืองออกจนหมดแล้ว ยังช่วยให้เนื้อผ้ามีความนุ่มขึ้นอีกด้วย
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรใช้น้ำส้มสายชูซักผ้าขาวบ่อยๆ เพราะจะทำให้ใยผ้าบางขึ้นเรื่อยๆ จนเสื่อมอายุการใช้งาน
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูกับตัวผ้าที่ทำมาจากผ้าไหม หรือผ้าเรยอน
2. ผงฟู + น้ำยาล้างจาน
การใช้ผงฟูร่วมกับน้ำยาล้างจาน หลายๆ คนอาจเป็นกังวลกับการผสมผงฟูกับน้ำยาล้างจานเข้าด้วยกัน แต่บอกเลยว่าวิธีนี้เห็นผลได้ดีมาก เพราะเป็นสูตรผสมกันแบบคอมโบไปเลย และสำหรับใครที่ต้องการพลังขจัดคราบสูงสุด สามารถผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซต์ (Hydrogen Peroxide) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อน้ำยาล้างแผล ก็จะยิ่งทำให้ผ้าขาวได้ไวขึ้น
วิธีใช้
ใส่ผงฟู 1 ถ้วยตวง กับน้ำยาล้างจาน 1 ถ้วยตวง คนให้เข้ากันจนผงฟูละลาย จากนั้นป้ายน้ำยาที่ผสมไว้ ลงไปที่รอยคราบเหลือง ให้ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำผ้าไปซักปกติได้เลย และสำหรับใครที่สนใจเพิ่มพลังคอมโบแบบ x3 สามารถนำผงฟู น้ำยาล้างจาน และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซต์มาผสมรวมกันอย่างละ 1 ถ้วยตวงแล้วคนให้เข้ากัน ก็จะช่วยให้ผ้าสะอาดมากยิ่งขึ้น
ข้อดี
- ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากผงฟูมีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับ
- สารทั้ง 3 ตัวล้วนมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกเป็นอย่างดี ช่วยให้ผ้ากลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง
ข้อควรระวัง
- ให้ตรวจสอบอีกครั้งว่าผงฟูละลายไปในน้ำเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ถึงจะเริ่มป้ายไปที่คราบเหลือง
- ไม่ควรทิ้งระยะเวลารอนานจนเกินไป เพราะวิธีนี้ใช้สูตรผสมถึง 3 สูตร อาจทำให้ผ้าเสื่อมสภาพได้
3. น้ำมะนาว
อีกหนึ่งวิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวที่ทำได้ง่าย และได้ผล คือการใช้มะนาว เนื่องจากในมะนาวมีกรดซิตริก (Citric Acid) อยู่ ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยกัดคราบเหลืองให้หลุดออกได้ง่าย อีกทั้งกรดมะนาว หรือกรดซิตริกเป็นกรดที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะช่วยปรับค่า pH ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นต้น
วิธีใช้
ก่อนซักเสื้อ ให้ใช้น้ำมะนาวประมาณ 1 ถ้วยตวงมาผสมกับน้ำเปล่า จากนั้นป้ายลงไปที่บริเวณคราบสกปรก ทิ้งไว้สักพัก แล้วใช้แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วขัดเบาๆ ขัดซ้ำไปเรื่อยๆ แล้วจึงทำการซักผ้าอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้เสื้อขาวก็จะกลับมาน่าใช้งานอีกครั้ง
ข้อดี
- น้ำมะนาวมีกรดซึ่งเป็นสารที่มาจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง
- หมดปัญหาเรื่องกรดกัดมือ หรือต้องระมัดระวังการใช้สารเคมี
ข้อควรระวัง
- ควรป้ายน้ำมะนาวลงไปที่บริเวณคราบเหลืองเท่านั้น ไม่ควรแช่ลงไปทั้งเสื้อ อาจทำให้สีออกมาขาวไม่เสมอกัน จนเสื้อด่าง
4. แปรงสีฟัน + ยาสีฟัน
ยาสีฟันก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมลับๆ ที่ช่วยขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว ที่หลายคนอาจแปลกใจกับวิธีนี้ แต่วิธีนี้นี่แหละ เห็นผลได้ชัด เพราะในยาสีฟันมีผงขัดฟัน ที่มีส่วนผสมที่ช่วยกำจัดคราบสกปรกออกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียมฟอสเฟต แคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมซิลิกา และฟลูออไรด์ ฯลฯ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการทำความสะอาดผ้าขาว
วิธีใช้
ให้นำเสื้อขาวจุ่มลงไปในน้ำ จากนั้นนำยาสีฟันป้ายลงไปบริเวณคราบเหลือง ใช้แปรงฟันที่ไม่ใช้แล้วมาขัดไปเรื่อยๆ ประมาณ 1-3 นาที จากนั้นนำเสื้อไปล้างด้วยน้ำเปล่า หากคราบจางลงไปเพียงเล็กน้อย ให้ทำซ้ำ แล้วจึงนำไปซักอีกครั้ง
ข้อดี
- เป็นวิธีที่ปลอดภัยแน่นอน ไม่ทิ้งสารตกค้างบนเสื้อผ้า
- วิธีนี้ควรใช้กับผ้าคอตตอน จะทำให้คราบเหลืองบนเสื้อขาวหลุดออกโดยง่าย
ข้อควรระวัง
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันสีอื่นๆ ที่ไม่ใช้สีขาว มาขัดคราบสกปรกออก เนื่องจากสีของยาสีฟันอาจเข้าไปผสม ทำให้ผ้าขาวมีสีเพี้ยนไปจากเดิม
5. ยาแอสไพริน
แอสไพริน หรือยาสามัญประจำบ้านที่ทุกคนรู้จักที่เป็นยาแก้ปวด ซึ่งจริงๆ แล้วยาแอสไพรินสามารถขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวได้ด้วยกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งสามารถใช้ทำความสะอาด ฆ่าแบคทีเรีย และเชื้อราได้อีกด้วย
วิธีใช้
ให้นำแอสไพรินขนาด 325 มิลลิกรัม จำนวน 5 เม็ดมาละลายในน้ำร้อน จากนั้นแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3-8 ชั่วโมง เพื่อรอให้กรดซาลิไซลิกที่อยู่ในตัวยานั้นออกฤทธิ์ แล้วจึงนำเสื้อไปซักตามปกติ เพียงเท่านี้ก็จะได้เสื้อที่กลับมาขาวสะอาดเหมือนเดิม
ข้อดี
- แอสไพรินเป็นส่วนผสมที่หาได้ง่าย
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะใช้ในจำนวนน้อย เพียง 5 เม็ดเท่านั้น
- สามารถกำจัดคราบอื่นๆ นอกจากคราบเหลืองบนเสื้อขาวได้ด้วย เช่น รอยคราบเลือด
ข้อควรระวัง
- หากเสื้อมีรอยคราบเลือด ให้ละลายแอสไพรินลงในน้ำเย็นแทน (ห้ามลงด้วยน้ำร้อน เนื่องจากความร้อนจะยิ่งทำให้คราบเลือดฝังตัวลึกมากยิ่งขึ้น)
6. เกลือ
เกลือช่วยได้! แน่นอนว่าเกลือเป็นสิ่งที่หลายๆ บ้านมีติดครัว ซึ่งเกลือสามารถทำให้ผ้าขาวขึ้นได้ เนื่องจากเกลือจะช่วยดูดความชื้นจากรอยเปื้อน รวมถึงดูดคราบสีออกไปได้อีกด้วย ซึ่งวิธีนี้ควรใช้ในกรณีที่เพิ่งพบว่ามีรอยเปื้อน แต่สำหรับรอยเปื้อนเก่าๆ ควรใช้วิธีอื่นจะเห็นผลมากกว่า
วิธีใช้
ให้นำเกลือมาละลายกับน้ำประมาณ 1 ถ้วยเล็ก และจุ่มเสื้อตรงจุดที่เปื้อนลงไป จากนั้นขยี้ให้น้ำเกลือซึมเข้าไปกับตัวผ้า ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จะทำให้คราบเหลืองค่อยๆ จางลง แล้วนำไปซักอีกครั้ง
ข้อดี
- เกลือเป็นสารจากธรรมชาติ มีความปลอดภัยมากกว่าการใช้สารเคมี
ข้อควรระวัง
- ระมัดระวังเรื่องสีไม่เท่ากัน เพราะตรงคราบเหลืองที่เกลือไปกัดออก อาจมีสีอ่อนกว่าสีเสื้อปกติได้
7. บอแรกซ์
บอแรกซ์ เป็นแร่จากธรรชาติ มีชื่อเรียกว่า โซเดียมบอเรต (Sodium Borate) ซึ่งมีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดี การละลายบอแรกซ์ในน้ำจึงมีฤทธิ์เป็นเบส ที่สามารถขจัดคราบสกปรกออกได้เป็นอย่างดี
วิธีใช้
ให้นำผงสารบอแรกซ์ประมาณ ½ ถ้วยตวง ผสมกับน้ำอุ่นเตรียมไว้ แล้วน้ำผ้าลงไปแช่ไว้ประมาณ 30 นาที แล้วซักได้ตาปกติ
ข้อดี
- ผงบอแรกซ์นั้นนอกจากจะช่วยให้ผ้าขาวขึ้นแล้วนั้น ยังช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย
- สามารถกำจัดคราบได้หลากหลายประเภท เช่น คราบน้ำมัน คราบเลือด และคราบจาระบี
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรใส่ผงบอแรกซ์ลงไปในช่องใส่น้ำยาอื่นๆ ให้ใส่ไปที่ถังปั่นเลย เพื่อขจัดคราบบนเสื้อ
- บอแรกซ์เป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและเกิดอันตรายได้ ควรใช้ความระมัดระวังในการใช้งาน
8. น้ำยาขัดสนิม
อีกหนึ่งตัวช่วยที่เหมาะกับการขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว โดยเฉพาะคราบสกปรกที่สะสมบริเวณใต้แขนเสื้อ เนื่องจากเป็นคราบที่เกิดจากปฏิกิริยาของเหงื่อกับเกลืออลูมิเนียมในโรลออนเป็นส่วนใหญ่ เมื่อใช้น้ำยาขจัดคราบสนิมจะช่วยขจัดคราบเหลืองที่เกิดจากเกลืออลูมิเนียมได้เป็นอย่างดี
วิธีใช้
นำน้ำอุ่นมาพรมให้ทั่วบริเวณรอยคราบเหลืองให้เสื้อเปียกหมาดๆ จากนั้นใช้น้ำยาขัดสนิมทาลงไป รอให้น้ำยาซึมลงไปที่ตัวผ้า แล้วจึงค่อยนำแปรงสีฟันมาขัด เพื่อช่วยให้น้ำยาเข้าสู่ตัวผ้าได้ดีขึ้น เมื่อขัดเสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น
ข้อดี
- ช่วยขจัดคราบบริเวณแขนเสื้อได้ดี
ข้อควรระวัง
- ให้ระมัดระวังในช่วงที่กำลังใช้งาน เพราะน้ำยาขัดสนิมเป็นสารเคมีอันตราย อาจเกิดการระคายเคืองได้ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น ถุงมือ
9. แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อโรคนั้นมีสารต้านจุลชีพ พวกไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราต่างๆ เมื่อใช้แอลกอฮอล์ในการกำจัดคราบสกปรกต่างๆ แอลกอฮอล์จะเข้าไปหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการใช้ทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรก รวมถึงเชื้อโรคอีกด้วย
วิธีใช้
นำแอลกอฮอล์แบบสเปรย์มาฉีดพ่นบริเวณคราบเหลืองให้ชุ่ม จากนั้นทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วซับคราบออกด้วยฟองน้ำ หลังจากนั้นจึงนำผ้าไปซักด้วยน้ำเย็น เพียงเท่านี้คราบเหลืองก็จะหายไป
ข้อดี
- เป็นวิธีทำความสะอาดที่ง่าย ไม่ซับซ้อน
ข้อควรระวัง
- ในช่วงซับคราบออกด้วยฟองน้ำ ให้ระมัดระวังอย่าให้มีน้ำหยดลงไปบนเสื้อ เพราะอาจเกิดเป็นรอยได้
10. น้ำยาล้างห้องน้ำ
มาถึงวิธีสุดท้าย เป็นไอเทมเด็ดสำหรับขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว ที่ไม่ว่าจะลองวิธีไหนๆ ซักอย่างไรก็ไม่ออกสักที แนะนำให้เลือกใช้วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้าย เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำมีกรดอยู่ค่อนข้างสูง อาจส่งผลเสียต่อใยผ้า รวมทั้งสีที่ได้กลับมาอาจจะไม่เหมือนเดิม หรือสีเสื้อไม่เท่ากัน
วิธีใช้
ให้สังเกตคราบเหลืองว่ามีอยู่บริเวณไหนบ้าง จากนั้นพรมน้ำเบาๆ บนรอยคราบเหลืองให้พอหมาด ตามด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำ แล้วเริ่มขยี้เสื้อผ้า เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วให้นำเสื้อไปล้างน้ำออก ก็จะเสร็จสิ้นขั้นตอนการขจัดคราบเหลือง
ข้อดี
- เป็นวิธีการทำความสะอาดที่ง่าย ไม่ซันซ้อน
- เหมาะสำหรับการกำจัดคราบเหลืองที่ฝังแน่น
ข้อควรระวัง
- น้ำยาล้างห้องน้ำมีความเป็นกรดสูง ให้ระวังเรื่องการกัดกร่อน อาจทำให้เสื้อผ้าเสื่อมสภาพได้
- ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ควรใส่ถุงมือยางขณะซักผ้า เนื่องจากน้ำยาล้างห้องน้ำเป็นกรดชนิดรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
- หากทิ้งเสื้อไว้นานเกินไป จนสีของน้ำยาล้างห้องน้ำติดเสื้อแทนนั้น ให้ใช้ไฮเตอร์ทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
- ควรทำในที่โล่งแจ้ง ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
คราบเหลืองบนเสื้อขาวเกิดขึ้นได้อย่างไร
คราบเหลืองบนเสื้อขาวนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร? บางครั้งเสื้อขาวที่เก็บไว้ในตู้ ยังไม่เคยใส่เลย กลับมีสีหมองลง และมีรอยคราบเหลืองเกิดขึ้น แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? มาดูสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดคราบเหลืองบนเสื้อขาวกันดีกว่า
สาร BHT
คราบเหลืองบนเสื้อขาวจากสาร BHT ให้ทำความเข้าใจก่อนว่าเส้นใยผ้านั้นมีสารบิวทิล ไฮดรอกซี่ โทลูอีน (Butyl Hydroxy Toluene หรือ BHT) เป็นสารไม่มีสี เคลือบอยู่กับตัวผ้า ใช้ในการป้องกันการเสื่อมสภาพจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งตัวสาร BHT จะทำให้ผ้าเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อได้รับปฏิกิริยาจากสารไนโตรเจนออกไซต์ (Nitrogen Oxide หรือ NOx) โดย NOx สามารถพบได้ในที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างร้อน หรือมีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เป็นปริมาณมาก ซึ่งกว่าจะเกิดปฏิกิริยาระหว่างสาร BHT กับ NOx จนเกิดสารสีเหลืองได้นั้น จะต้องอยู่ในสภาวะที่มีแนวโน้มเป็นเบส มักพบจากการใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้นการแก้ปัญหาคราบเหลืองที่เกิดจากสาร BHT จะต้องใช้วิธีการเติมกรดเข้าไป เช่น การใช้น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชูใส่ลงไปในเสื้อผ้ารอบสุดท้าย ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดคราบเหลืองที่ตัวผ้า
เกลืออลูมิเนียม
คราบเหลืองบนเสื้อขาวจากเกลืออลูมิเนียม เกลืออลูมิเนียม มักพบอยู่ในส่วนผสมของโรลออนที่ทุกคนใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นเกลืออลูมิเนียมไม่ได้ทำให้เกิดคราบเหลืองโดยตรง แต่มาจากการที่คราบเหงื่อของคนเราที่มีองค์ประกอบของโปรตีนอยู่ ได้ถูกล็อกด้วยเกลืออลูมิเนียม จึงทำให้เกิดคราบเหลืองติดบนเสื้อนั่นเอง ซึ่งวิธีแก้นั้นให้นำกรดไฮโดรคลอริกเพื่อละลายอิออนของตัวเกลืออลูมิเนียมออกมา โดยการนำน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีส่วนผสมของกรดไฮโดรคลอริกประมาณ 7.5% มาป้ายบริเวณที่เกิดคราบเหลืองบนเสื้อขาว คราบเหลืองก็จะเริ่มจางลงไปเรื่อยๆ
สนิมเหล็ก
คราบเหลืองบนเสื้อขาวจากสนิมเหล็ก หลายๆ คนคงสงสัยว่าทำไมถึงมีคราบสนิมเหล็กอยู่บนเสื้อขาวได้? สนิมเหล็กนั้นจะเจือปนอยู่กับน้ำประปา แต่มักพบในน้ำบาดาลมากกว่า ซึ่งจะเกิดคราบเหลืองบนเสื้อขาวก็ต่อเมื่อมีการใช้น้ำที่ปนเปื้อนกับสนิมเหล็ก แล้วทำปฏิกิริยากับอากาศ ก็จะทำให้เกิดคราบเหลืองขึ้นมา ดังนั้นวิธีการกำจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวที่เกิดจากสนิมเหล็ก ให้ใส่สารจับอนุมูลโลหะ (Sequestering agents) ลงไปในน้ำ เช่นการใช้ Oxalic acid หรือกรดมะนาวลงไป ก็จะลดโอกาสเกิดคราบเหลืองได้มากขึ้น
ปฏิกิริยา Thermal Yellowing
คราบเหลืองบนเสื้อขาวจากปฏิกิริยา Thermal Yellowing หรือคราบเหลืองที่เกิดจากความร้อน คือ การที่ผ้านั้นได้รับอุณหภูมิความร้อนสูง จนทำให้เกิดรอยคราบเหลืองขึ้นมา จะสังเกตปฏิกิริยา Thermal Yellowing ได้ในช่วงที่กำลังรีดผ้า โดยเฉพาะเสื้อที่ทำจากผ้าไนล่อน หรือผ้าวิสโคส เมื่อรีดเสร็จก็จะพบรอยคราบเหลืองบนเสื้อขาวเสียแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ให้แก้ปัญหาคราบเหลืองด้วยการใช้น้ำยาซักฟอกขาวที่มีส่วนประกอบจำพวกโซเดียมเปอร์คาร์บอเนต หรือโซเดียมไบคาร์บอเนตมากำจัดคราบเหลืองให้ออกก่อน จากนั้นนำไปซักใหม่อีกครั้ง
จะเห็นได้ว่าคราบเหลืองบนเสื้อขาวนั้น เกิดจากสาเหตุได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดคราบเหลืองจากสาร BHT สนิมเหล็ก และสารอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่คอยกวนใจคนรักเสื้อขาวอยู่ตลอด ในบางครั้งเสื้อขาวที่ซื้อมาเก็บไว้ในตู้ ยังไม่เคยใส่ก็มีรอยคราบเหลืองเสียแล้ว แถมซักไม่ออกอีก ซึ่งทาง AP Thai ได้รวมให้ทั้ง 10 วิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งการใช้น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว หรือแม้แต่ยาสีฟัน ก็สามารถกำจัดคราบเหลืองได้ ซึ่งสามารถไปลองทำตามกันได้เลย!