หลายคนคงจะเคยประสบกับความรู้สึก “สิ้นเดือนก็เหมือนสิ้นใจ” จากการต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายไปกับการใช้ชีวิตตลอดทั้งเดือน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น บางครั้งก็มาจากการใช้ชีวิตประจำวันอันเล็กน้อยที่มนุษย์มักจะมองข้ามไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ พฤติกรรมการใช้น้ำ เช่น การอาบน้ำ การล้างมือ การรดน้ำต้นไม้ หรือแม้แต่การเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว แต่เชื่อหรือไม่ว่า คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ด้วยการเริ่มต้นทำตามวิธีประหยัดน้ำทั้ง 9 ข้อ ที่จะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณอาจใช้น้ำมากจนเกินไป !
ทำไมเราจึงควรใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า
น้ำเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีมากและสำคัญกับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกประเภท ตั้งแต่มนุษย์ สัตว์ และพืช ที่ต่างก็ต้องการน้ำมาหล่อเลี้ยงชีวิตเช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันปริมาณการใช้น้ำของมนุษย์มีการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำรงชีวิตประจำวัน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาได้
ตัวอย่างเช่น วิกฤติภัยแล้ง ที่ประเทศไทยเคยเผชิญเมื่อปีพ.ศ. 2563 หรือปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2554 และ 2564 ที่ล้วนมีปัจจัยมาจากการใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ ได้แก่
- เกิดภาวะฝนตกน้อยกว่าปกติ จนเกิดการทิ้งช่วงเป็นเวลานานเกินไป
- พื้นที่มีลักษณะไม่เหมาะสม
- การจัดการน้ำไม่ดีพอและการใช้น้ำที่สิ้นเปลืองมากกว่าความต้องการ
- เกิดมลพิษในน้ำ จากการใช้น้ำอย่างผิดวิธี
- ป่าไม้ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยดูดซับน้ำ ถูกทำลาย
และด้วยการกระทำอันผิดพลาดนี้เอง ที่ทำให้ปริมาณของน้ำสะอาดที่มีในปัจจุบันลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในด้านต่างๆ มากมาย ดังนี้
- มนุษย์มีน้ำใช้ไม่เพียงพอ ทั้งด้านการบริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการผลิตไฟฟ้า
- สัตว์ขาดแคลนน้ำในการดำรงชีวิต ทั้งด้านที่อยู่อาศัยและการบริโภค
- การคมนาคมทางน้ำเป็นไปได้ยากขึ้น
- เกิดมลพิษทางน้ำมากเพิ่มขึ้น
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้น ถึงแม้ว่าสาเหตุของปัญหาภัยแล้งจะสามารถแบ่งได้มากมาย แต่สิ่งที่ใกล้ตัวและเป็นสาเหตุโดยตรงจากมนุษย์ คงก็จะหนีไม่พ้น การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง ดังนั้น คุณก็ควรเริ่มที่จะประหยัดปริมาณน้ำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้มีความยั่งยืน รวมไปถึง สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายประจำวันที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย
เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยวิธีประหยัดน้ำ ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่บ้าน
นอกจากการใช้น้ำที่สิ้นเปลืองแล้ว ค่าน้ำที่แพงขึ้นก็มีสาเหตุมาจากความเสื่อมโทรมของระบบท่อประปาที่อาจมีการรั่วซึมเกิดขึ้น ทำให้คุณอาจเสียน้ำเพิ่มขึ้นมากถึง 30% จากปกติ และถ้าหากคุณได้เริ่มทำตามวิธีประหยัดน้ำเหล่านี้แล้ว ค่าใช้จ่ายในส่วนของน้ำก็อาจลดลงไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน
1. ตรวจสอบและอุดจุดรั่วไหลของน้ำในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
ความเสื่อมโทรมชำรุดของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำถูกทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ ซึ่งอาจมีการสูญเสียน้ำไปมากถึง 75 - 387 ลิตรเลยทีเดียว โดยสามารถป้องกันได้ ด้วยการตรวจสอบอุปกรณ์และอุดรูรั่วของน้ำตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้
-
มิเตอร์น้ำ
ควรตรวจสอบมิเตอร์น้ำเป็นประจำ เพื่อให้รู้ว่าในแต่ละเดือนมีการใช้น้ำไปมากน้อยเพียงใด หรือเพื่อดูความสม่ำเสมอของน้ำที่เสียไป โดยสามารถเช็กการรั่วไหลของน้ำด้วยการปิดน้ำและตรวจสอบว่ามิเตอร์มีการเพิ่มขึ้นหรือไม่
-
โถสุขภัณฑ์
รอยรั่วของโถสุขภัณฑ์นั้นสามารถตรวจสอบได้ด้วยการใส่สีผสมอาหารลงไปในถังน้ำชักโครก แล้วกดน้ำทิ้ง ถ้าหากหลังจาก 30 วินาที ยังมีน้ำเหล่านั้นไหลออกมา แสดงว่าถังเก็บน้ำชำรุดให้รีบซ่อมแซมโดยด่วน ซึ่งนอกจากนี้คุณยังสามารถประหยัดการใช้น้ำด้วยการนำขวดน้ำหรือถุงที่บรรจุน้ำ ใส่ไว้ภายในของถังได้อีกด้วย
-
ปั๊มน้ำ
สามารถสังเกตได้จากเสียงของปั๊มน้ำในเวลาที่ไม่มีคนใช้งานน้ำ ถ้าหากตัวปั๊มน้ำยังมีเสียงอยู่แสดงว่ามีการรั่วไหลของน้ำเกิดขึ้น
-
ก๊อกน้ำและท่อน้ำ
หมั่นเช็กว่าก๊อกน้ำและท่อน้ำมีการชำรุดหรือแตกหักหรือไม่อย่างสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นคุณอาจสูญเสียน้ำอย่างสิ้นเปลืองไปมากถึง 1,500 - 10,000 ลิตรต่อเดือนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถ้าหากคุณต้องออกจากบ้านเป็นเวลานาน ก็ควรที่จะปิดวาล์วน้ำให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันน้ำที่ไหลทิ้งไป
2. ซักผ้าอย่างชาญฉลาด
การซักผ้าน้อยชิ้นในครั้งเดียวทำให้เสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์มากกว่าการซักผ้าในปริมาณเยอะๆ ซึ่งการซัก 1 - 2 สัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง ก็เป็นระยะเวลาที่พอเหมาะ เพราะซักด้วยเครื่องซักผ้าจะใช้น้ำเฉลี่ยมากถึง 100 ลิตรต่อหนึ่งครั้ง ดังนั้น การซักผ้าด้วยมือก็เป็นวิธีการช่วยประหยัดน้ำได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากใช้เครื่องซักผ้าในการซัก คุณก็ควรที่จะปรับโหมด ECO หรือกดเลือกปริมาณเสื้อผ้าที่ตรงกับความเป็นจริง ก็จะช่วยประหยัดน้ำได้อีกแบบ
3. ปิดฝักบัวระหว่างอาบน้ำถูตัว
ถึงแม้ว่าการใช้ฝักบัวแทนการแช่อ่างอาบน้ำจะลดการใช้งานน้ำได้มากถึง 27% แต่การเปิดฝักบัวให้มีน้ำไหลลงมาขณะที่กำลังถูตัว และการอาบน้ำด้วยเวลามากกว่า 5 - 10 นาทีนั้น ถือเป็นการสิ้นเปลืองการใช้น้ำ ดังนั้น การใช้ฝักบัวที่มีรูปทรงขนาดเล็กหรือมีหัวฝักบัวจะเป็นอีกวิธีประหยัดน้ำ และหากอาบน้ำให้เร็วขึ้นสักหน่อย ก็จะช่วยประหยัดน้ำได้มากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ การปิดฝักบัวให้สนิทก่อนที่ฟอกสบู่หรือแชมพูก็สำคัญเช่นกัน
4. ล้างผักผลไม้ในภาชนะรองน้ำ
การล้างผักและผลไม้ด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านในทุกๆ ลูก อาจไม่สามารถช่วยให้ผักผลไม้เหล่านั้นสะอาดเพียงพอ อีกทั้งยังเป็นการใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองอีกด้วย วิธีที่จะช่วยประหยัดน้ำในส่วนนี้ก็คือการรองน้ำในภาชนะเพื่อล้างผักและผลไม้แทน
5. แปรงฟันและบ้วนปาก โดยใช้แก้วรองน้ำทุกครั้ง
รู้ไหมว่า การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองขณะที่แปรงฟัน จะเกิดขึ้นเพราะการเปิดน้ำทิ้งไว้ตอนที่กำลังแปรง หรือไม่ได้ใช้แก้วรองน้ำในการแปรงฟัน ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นมีการเสียน้ำไปมากถึง 20 - 30 ลิตรต่อหนึ่งครั้ง แต่ถ้าหากว่าคุณเปิดน้ำให้ถูกและใช้แก้วรองน้ำขณะแปรงฟัน ก็จะทำให้น้ำที่เสียไปลดลงเหลือเพียงแค่ 0.5 - 1 ลิตรเท่านั้น
6. ใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้สายยางต่อจากก๊อกน้ำ
อีกหนึ่งวิธีประหยัดน้ำง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองคือ การใช้ฝักบัวรดน้ำที่มีน้ำสะอาดจากการใช้งานอื่นๆ หรือการใช้สปริงเกอร์ (Sprinkler) สำหรับสวนที่มีบริเวณกว้าง แทนการใช้สายยางรดน้ำต้นไม้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ต้องเปลืองแรงอีกด้วย
7. ล้างถ้วยชามในอ่าง
ในทฤษฎีเดียวกับการล้างผักผลไม้ การล้างจานด้วยการเปิดน้ำผ่านไปเรื่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองน้ำมากพอๆ กับการล้างผักผลไม้ หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้น การเช็ดสิ่งสกปรกออกจากจานก่อน เพื่อให้ล้างง่ายยิ่งขึ้น และการรองน้ำในอ่างล้างจานหรือกะละมังแล้วจึงค่อยล้างจานเหล่านั้น จะเป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดน้ำได้
8. ไม่เปิดน้ำทิ้ง เวลาล้างรถ
การล้างรถที่ผิดวิธีก็จะสามารถนำมาสู่การใช้งานน้ำอย่างสิ้นเปลืองได้ เพราะรถมีขนาดที่ใหญ่ ซึ่งวิธีหรือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้ประหยัดการใช้น้ำมากขึ้น ก็คือการล้างรถจากส่วนด้านบนลงมาด้านล่าง ใช้ถังน้ำแทนการใช้สายยางล้างรถ ลดความถี่ในการล้างรถ และไม่เปิดน้ำทิ้งไว้ในขณะที่กำลังถูตัวรถนั่นเอง
9. การนำน้ำที่ใช้แล้วไปใช้ประโยชน์ต่อ
มีน้ำมากมายที่ถูกใช้เพียงครั้งเดียวและทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น การใช้น้ำที่ถูกใช้แล้วให้เกิดประโยชน์อื่นๆ ต่อไปได้อีก ก็จะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับน้ำได้อีกด้วย โดยวิธีการต่างๆ เช่น การนำน้ำสุดท้ายของการล้างผักผลไม้ ซักผ้า ล้างจาน หรือน้ำซาวข้าวมาใช้รดน้ำต้นไม้ รวมถึง เทคนิควิธีประหยัดน้ำจากประเทศญี่ปุ่นที่นำน้ำที่ใช่แช่ตัว (แบบสะอาด) มาใช้ในการซักผ้าต่อไปนั่นเอง
และนี่คือนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ไม่ยุ่งยาก ที่คุณอาจคิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว และบอกได้เลยว่าเพียงแค่คุณเริ่มที่จะเปลี่ยน ก็จะสามารถประหยัดน้ำและค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีประหยัดน้ำดังกล่าว ยังช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนสืบไปอีกด้วย