ห้องนอนนับเป็นห้องแห่งการแต่งเติมความฝันของใครหลายคน เป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ที่สามารถแสดงความเป็นตัวเองได้อย่างไร้ขอบเขต ดังนั้นการเลือกโทนสีห้องนอนนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับใครหลายๆ คน แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้สไตล์หรือใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วห้องนอนควรทาสีอะไรจึงจะถูกโฉลกกับตน บทความนี้จะบอกคุณอย่างหมดเปลือก
ทาห้องนอนสีอะไรดี? ให้ถูกหลักตามฮวงจุ้ย
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นหากคุณหาสไตล์ที่ใช่ยังไม่เจอ แถมยังคิดไม่ออกว่าห้องนอนของคุณจะทาสีอะไรดี หัวข้อนี้จะแนะนำกฏเกณฑ์การเลือกสี รวมทั้งทฤษฏีสีต่างๆ ที่ถูกหลักตามฮวงจุ้ย นอกจากจะได้ห้องนอนที่สวยตามที่ต้องการแล้ว ยังเสริมโชคลาภวาสนาในด้านต่างๆ ให้คุณอีกด้วย
เลือกทาสีโทนเย็น
แน่นอนว่าห้องนอนที่ดี เหมาะแก่การพักผ่อนนั้นจำเป็นจะต้องใช้สีโทนเย็นหรือสีที่มีลักษณะมองแล้วสบายตา อย่างเช่นสีฟ้าอ่อน สีเขียวพาสเทล เพราะมีงานวิจัยรองรับว่าสีโทนเย็นนั้นจะช่วยให้การนอนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หลับสนิทและยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงมากกว่าคนที่เลือกใช้เฉดสีโทนร้อน หรือสีโทนทึบที่มีความเป็นหยินหรือหยางมากเกินไป อาจส่งผลต่อตัวบ้านและผู้อยู่อาศัยได้
ทาสีด้วยหลักการ 60 : 30 : 10
หลักการนี้แท้จริงแล้วมาจากหลักการออกแบบภายใน โดยจะมีการแบ่งการทาสีออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งทำให้คุณสามารถคุมโทนสีห้องได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สีเพียงสีเดียวตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย เหมาะกับคนที่ไม่รู้ว่าห้องนอนควรทาสีอะไรให้สามารถเลือกสีที่ชอบและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในการทาสียังสามารถเนรมิตห้องให้ดูมีชีวิตชีวาจากการผสมสีจากอัตราส่วน 60-30-10 โดยจะแบ่งได้ดังนี้
- สีหลัก 60% ซึ่งอาจจะเป็นสีผนังรอบห้องและเพดาน หรือเฟอร์นิเจอร์หลักในห้องเช่น เตียง
- สีรอง 30% ซึ่งอาจจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นรองอย่างเช่น โซฟา โต๊ะ พรมหรือผ้าม่านในห้องนอน
- สีไฮไลต์ 10% ซึ่งอาจจะเป็นสีบริเวณบานประตู กรอบหน้าต่าง บัวพื้น บัวฝ้าภายในห้องนอน
ไม่ทาสีขาวทั้งห้อง
ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว การใช้สีขาวล้วนเพียงสีเดียวจะทำให้ไม่สามารถเก็บพลังชี่ (Qi) หรือพลังงานแห่งชีวิตไว้ได้ทั้งหมด อีกทั้งสีขาวนั้นยังเป็นสีที่สะท้อนสีจากวัตถุอื่นๆ มาไว้ในห้องนอน จนเกิดภาวะสับสนวุ่นวายของพลังขึ้น ส่งผลให้นอนไม่หลับ รู้สึกวิตกกังวล และอาจมีอาการหลับไม่สนิทจนมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา ดังนั้น หากต้องการให้ห้องนอนเป็นสีขาวอาจจะใช้กฎ 60-30-10 เข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดพลังงานหมุนเวียนภายในห้อง สร้างความสุขและสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้น
เลือกฟิล์มสีให้เหมาะสม
ฟิล์มสีทาบ้านที่วางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาดแท้จริงแล้วนั้นมีหลากหลายรูปแบบ จนทำให้ผู้ซื้อหลายต่อหลายคนเกิดความสับสนว่าควรใช้ฟิล์มสีทาบ้านประเภทไหนกันแน่ โดยฟิล์มสีทาบ้านจะมีอยู่ 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ได้แก่
- สีทาภายในเนื้อเงา จุดเด่นทำความสะอาดง่าย จุดด้อยสะท้อนแสงจากหลอดไฟหรือแสงแดด
- สีทาภายในเนื้อกึ่งเงา จุดเด่นสะท้อนแสงน้อยทำให้สบายตา จุดด้อยเมื่อเกิดรอยร้าวจะเห็นชัด
- สีทาภายในเนื้อด้าน จุดเด่นไม่สะท้อนแสง พรางสายตาเมื่อเกิดรอย จุดด้อยทำความสะอาดยาก
อย่างที่เกริ่นไปในหัวข้อที่แล้ว ห้องนอนควรใช้สีทาภายในเนื้อกึ่งเงาหรือเนื้อด้านเพื่อให้ไม่สะท้อนสิ่งอื่นๆ มาในห้องนอนจนเกิดภาวะสับสนวุ่นวายภายในห้องนอน
โทนสีที่นิยมนำมาทาสีห้องนอนมีสีอะไรบ้าง?
หากกฎเกณฑ์การเลือกสีหรือทฤษฏีต่างๆ ที่พูดไปก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ช่วยให้คุณตกลงปลงใจในการเลือกสีห้องนอนเสียที มาดูสีห้องนอนยอดนิยมที่คุณไม่ควรพลาด รับรองได้ว่าคุณจะได้ไอเดียดีๆ กลับไปอย่างแน่นอน
โทนสีขาว
สีขาวนับเป็นตัวเลือกในใจของใครหลายๆ เนื่องจากสีจะช่วยให้บรรยากาศดูสบายตา ผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกด้วย แต่ตามหลักฮวงจุ้ยที่พูดไปก่อนหน้านี้ควรจะหาสีอื่นมาผสมผสานหรือใช้ทาร่วมด้วยเพื่อให้ห้องมีพลังงานชีวิตหมุนเวียน อาจจะใช้หลักการทาสี 60-30-10 โดยนำคู่สีที่คุณชื่นชอบอีกสัก 2 เฉดอย่างสีครีมหรือสีเทามาแต่งเติมอาจจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หมอน โซฟา หรือผ้าม่าน เป็นต้น
โทนสีครีม
สีครีมตัวเลือกที่นิยมไม่น้อยไปกว่าสีขาว นับเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบง่าย สบายใจสบายตาเมื่อมอง ให้ความรู้สึกมั่นคงทางอารมณ์ นับเป็นอีกเฉดสีที่ไม่ว่าจะจับคู่กับสีไหนก็ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีเขียวน้ำทะเล หรือสีน้ำเงินเข้ม
โทนสีน้ำตาล
สีน้ำตาลอาจจะเป็นหนึ่งในเฉดสีอาจจะพบเห็นได้เป็นส่วนน้อยสำหรับการใช้เป็นสีหลัก แต่สีน้ำตาลนั้นมีส่วนช่วยให้ห้องนั้นๆ ดูอบอุ่น ผ่อนคลาย โดยส่วนมากมักจะนำสีน้ำตาลเข้ามาใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือสีพื้นห้องแทนสีหลักมากกว่า หากต้องการใช้เป็นสีหลักจริงๆ อาจจะต้องใช้สีน้ำตาลเฉดอ่อน โดยสามารถจับคู่ได้อย่างกลมกลืนกับสีครีมหรือสีขาว
โทนสีเทา
สียอดฮิตสำหรับสายมินิมอล ซึ่งนับเป็นเฉดสีแห่งความสมดุลที่ให้ความรู้สึกสุขุม นิ่งสงบ ผ่อนคลาย ปลอดภัย ไม่ว่าจะเฉดสีไหนก็เข้ากับห้องนอนไปเสียหมด อย่างไรก็ตาม หากกลัวที่ห้องจะดูหม่นหรือดูขาดสีสันจนเกินไปสามารถนำสีส้มหรือสีเหลืองมาเพิ่มสีสันให้กับห้องนอนของคุณได้ โดยอาจจะใช้กับปลอกหมอน โคมไฟ หนังสือมาประดับตกแต่งก็เพียงพอแล้ว
โทนสีเขียว
แค่ต้นไม้อาจจะยังไม่เพียงพอ การได้นอนอยู่ในห้องนอนเฉดสีเขียว จะให้ความร่มรื่น ปลอดโปร่ง และรู้สึกผ่อนคลาย เสมือนได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ อีกทั้งโทนสีเขียวยังเป็นสีแห่งความมั่งคั่ง แต่ทั้งนี้อาจจะควรเลี่ยงสีเขียวสด โดยสามารถใช้เป็นทั้งสีหลักและสีรองได้ เพิ่มลูกเล่นให้ห้องนอนด้วยการนำคู่เฉดสีอย่างสีขาวหรือสีเทาอ่อนมาแทรก แล้วใช้สีไฮไลต์เพิ่มความน่าสนใจให้กับห้องอย่างสีเทาเข้ม
โทนสีฟ้า
ส่งมอบความสดใสทันทีเมื่อลืมตาด้วยโทนสีฟ้าที่นอกจะให้บรรยากาศภายในห้องนอนดูสดใสแล้ว ยังส่งผลด้านอารมณ์อื่นๆ ตามมาอีกด้วย เช่น ความสุข สดชื่น และผ่อนคลาย ซึ่งตามหลักวิทยาศาสตร์เมื่อเรามองเห็นสีฟ้า ร่างกายจะทำการหลั่งสารเมลาโทนิน เป็นสารที่ทำหน้าที่ให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย นับเป็นสีที่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับห้องนอน ไม่ว่าจะใช้เป็นสีหลักก็ดี หรือใช้เป็นสีรองก็ลงตัว โดยอาจจะจับคู่กับโทนสีอย่างสีขาว สีครีม สีเทาอ่อน และสีเขียวน้ำทะเลก็จะช่วยเพิ่มมิติให้ห้องนอนของคุณ
โทนสีน้ำเงิน
หากต้องการให้ห้องนอนของคุณดูสงบเย็น ให้ความรู้สึกหนักแน่น การใช้โทนสีอย่างสีน้ำเงินนับเป็นตัวเลือกที่เข้าท่าเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้อาจจะใช้เป็นสีรองหรือสีไฮไลต์ก็เพียงพอแล้ว เพราะอาจจะส่งผลให้ห้องนอนของคุณดูทึบ และอึดอัดจนเกินไป ทั้งนี้สามารถเพิ่มความมีสีสันไม่จำเจ ออกนอกกรอบด้วยการจับคู่สีอย่างสีส้มหรือสีเหลืองเพื่อให้ห้องนอนของคุณดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น
โทนสีชมพู
หมดยุคการแบ่งเพศด้วยสี มาก้าวข้ามกรอบเดิมๆ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับห้องนอนของคุณด้วยสีชมพู หนึ่งในโทนสีที่ให้ความอบอุ่น ดูสงบ และชวนผ่อนคลาย โดยสามารถใช้ได้ทั้งสีหลักและสีรอง โดยนำมาจับคู่กับสีกรมท่าหรือสีฟ้า หรือสีน้ำตาลอ่อนก็จะช่วยให้ห้องของคุณดูไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
ห้องนอนควรทาสีอะไรดี? เลือกยังไงให้ถูกโฉลก
หากยังรู้สึกว่าที่ผ่านมายังไม่ตอบโจทย์ และเสริมฮวงจุ้ยไม่พอ ในหัวข้อนี้จะมาเจาะลึกลงไปว่า หากคุณเกิดวันนี้ ต้องทาห้องนอนสีอะไรดีตามหลักฮวงจุ้ย ไปคลายข้อสงสัยกันได้เลย
วันจันทร์
ลักษณะนิสัยของคนที่เกิดวันจันทร์โดยส่วนมากจะมีอารมณ์แปรปรวน โกรธง่ายหายเร็ว เจ้าเสน่ห์ และเป็นคนช่างพูด โดยรวมคนเกิดวันจันทร์ควรใช้โทนสีสว่าง ที่ไม่ร้อนแรงจนเกินไป สีครีมและสีเหลืองอ่อนจะช่วยเสริมเรื่องเสน่ห์และโชคลาภ ในขณะเดียวกัน สีที่ควรเลี่ยงคือสีแดง นับเป็นสีอัปมงคลของคนที่เกิดวันจันทร์ เป็นสีที่มาหักล้างกับสีเหลือง อีกทั้งยังส่งผลในเรื่องของอารมณ์ ทำให้คุณรู้สึกร้อนใจอยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นอีกหนึ่ง
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันจันทร์ ได้แก่ สีโทนสว่าง สีครีม
- สีที่ควรเลี่ยงของคนที่เกิดวันจันทร์ ได้แก่ สีแดง สีเหลือง
วันอังคาร
โดยเนื้อแท้ของคนที่เกิดวันอังคารจะเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมา เป็นคนรักอิสระ รักความท้าทาย กล้าทำกล้าลุย โดยสีที่ถูกโฉลกกับชาววันอังคารคือสีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน เนื่องจากจะช่วยให้คุณรู้สึกสงบจากความวุ่นวายต่างๆ จากลักษณะนิสัยที่เป็นคนรักอิสระ กล้าคิดกล้าทำ สีที่ควรเลี่ยงก็คือสีขาว และสีเหลือง ซึ่งทั้ง 2 สีนี้จะทำให้คนที่เกิดวันอังคารทำอะไรเร็วมากยิ่งขึ้น จนอาจจะส่งผลเสียตามมาภายหลัง
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันอังคาร ได้แก่ สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน
- สีที่ควรเลี่ยงของคนที่เกิดอังคาร ได้แก่ สีขาว สีเหลือง
วันพุธ (กลางวัน)
บุคลิกของคนที่เกิดวันพุธเป็นคนที่ปรับตัวไว เรียนรู้เร็ว ไหวพริบเป็นเลิศ มีความคิดสร้างสรรค์ สีที่จะช่วยส่งเสริมชาววันพุธกลางวันคือ สีแสด สีดำ เนื่องจากเป็นสีที่ช่วยเพิ่มพลังและความกระฉับกระเฉง สีที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สีชมพู อาจจะส่งผลต่อปัญหาด้านสุขภาพ
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันพุธกลางวัน ได้แก่ สีแสด สีดำ
- สีที่ควรเลี่ยงกับคนเกิดวันพุธกลางวัน ได้แก่ สีชมพู
วันพุธ (กลางคืน)
พื้นเพคนที่เกิดวันพุธเป็นคนที่ปรับตัวไว เรียนรู้เร็ว ไหวพริบเป็นเลิศ มีความคิดสร้างสรรค์ สำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืนที่ไม่รู้ว่าห้องนอนควรทาสีอะไรดี สามารถใช้สีชมพู สีเทาอ่อน หรือสีขาวนวลเพื่อเสริมดวงได้ เนื่องจากเป็นสีที่ช่วยเสริมเรื่องดวงชะตาและโชคลาภ สีที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สีส้ม
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันพุธกลางคืน ได้แก่ สีชมพู สีเทาอ่อน
- สีที่ควรเลี่ยงกับคนที่เกิดวันพุธกลางคืน ได้แก่ สีส้ม
วันพฤหัสบดี
ส่วนมากคนที่เกิดวันพฤหัสบดีเป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งชอบแบ่งปันความรู้นั้นๆ ให้แก่ผู้อื่น เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น สีที่ถูกโฉลกกับชาวพฤหัสบดี ได้แก่ สีเอิร์ธโทนอย่างสีน้ำตาลหรือสีเบจ และสีฟ้าซึ่งเป็นสีที่ช่วยให้ชาวพฤหัสบดีรู้สึกสบายใจ สุขใจ ในขณะเดียวกัน สีที่ควรเลี่ยง ได้แก่ สีม่วง เพราะจะเป็นสีที่ทำให้ความรักของชาวพฤหัสบดีผิดหวังอยู่เรื่อยๆ
- สีที่เลือกกับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ได้แก่ สีฟ้าอ่อน สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ
- สีที่ควรเลี่ยงกับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ได้แก่ สีม่วง
วันศุกร์
พื้นฐานคนเกิดวันศุกร์จะเป็นคนอัธยาศัยดี น่าคบหา สีที่ถูกโฉลกกับคนที่เกิดวันศุกร์คือสีพีช สีเหลืองที่จะส่งเสริมเรื่องดวงชะตา ความสุขและโชคลาภ เนื่องจากเป็นสีที่ให้ความอบอุ่น ส่วนสีที่ควรเลี่ยงเป็นอย่างยิ่งคือสีดำ หรือสีโทนเข้ม นับเป็นสีที่ก่อให้เกิดความเครียดสำหรับคนที่เกิดวันศุกร์
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันศุกร์ ได้แก่ สีพีช สีโทนอ่อน
- สีที่ควรเลี่ยงกับคนที่เกิดวันศุกร์ ได้แก่ สีดำ สีโทนเข้ม
วันเสาร์
โดยทั่วไปคนที่เกิดวันเสาร์จะมีนิสัยเป็นคนคิดมาก สีโทนเย็นอย่างสีโทนอ่อนและสีเทาจะช่วยให้คนที่เกิดวันเสาร์รู้สึกสงบ สบายใจ ในขณะที่สีที่เป็นกาลกิณีสำหรับชาววันเสาร์คือสีเขียว นับเป็นสีที่ขัดลาภ ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันเสาร์ ได้แก่ สีเทา สีโทนอ่อน
- สีที่ควรเลี่ยงกับคนที่เกิดวันเสาร์ ได้แก่ สีเขียว
วันอาทิตย์
นิสัยพื้นฐานของคนวันอาทิตย์คือรักพวกพ้องเป็นที่หนึ่ง อีกทั้งซื่อสัตย์และจริงใจ สีที่จะเสริมดวงสำหรับคนที่เกิดวันอาทิตย์นั้นคือสีโทนสว่างอย่างสีขาวหรือสีควันบุหรี่ สีที่ควรเลี่ยงได้แก่สีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เพราะจะทำให้เกิดอุปสรรคในชีวิตได้
- สีที่ควรเลือกกับคนที่เกิดวันอาทิตย์ ได้แก่ สีขาว สีควันบุหรี่
- สีที่ควรเลี่ยงกับคนที่เกิดวันอาทิตย์ ได้แก่ สีฟ้า สีน้ำเงิน
ห้องนอนนับเป็นอีกหนึ่งในห้องที่มีความสำคัญหรืออาจจะเป็นพื้นที่ Safe Zone ของใครหลายๆ คน เพื่อให้ได้ห้องหรือพื้นที่ที่ส่งต่อความปลอดภัย อีกทั้งยังบ่งบอกตัวตนของคุณได้อยากไร้ขอบเขต คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของใครหลายๆ คนคงหนีไม่พ้นห้องนอนควรหาสีอะไร หรือ ห้องนอนสีอะไรดีที่เหมาะกับฮวงจุ้ย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณหาคำตอบหรือเป็นตัวช่วยต่อยอดไอเดียของคุณได้เป็นอย่างดี
