LIVING SERIES
  • Witty Living

10 เคล็ดลับจัดห้องนอนสวย ๆ น่าอยู่ หลับสบาย ถูกสุขลักษณะ

บทความที่จะแนะนำการจัดห้องนอนให้ถูกสุขลักษณะและน่านอน ให้ห้องนอนเป็นพื้นที่แห่งความสบายกายและใจในทุกๆ วัน!

AP THAILAND

AP THAILAND

เคล็ดลับจัดห้องนอน

MAIN POINT

 

  • การจัดห้องนอนให้น่าอยู่และถูกสุขลักษณะนั้นมีความสำคัญต่อผู้นอน เพราะช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งวิธีจัดห้องนอนให้น่าอยู่สามารถทำได้หลากหลาย อาทิ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้อง การปรับขนาดห้องให้มีพื้นที่พอดี การเลือกสีรวมไปถึงการใช้แสงไฟในห้องนอน
  • การตกแต่งห้องนอนสามารถเลือกได้ตามสไตล์ที่ต้องการ ทั้งสไตล์มินิมอล สไตล์โมเดิร์น  สไตล์โมเดิร์นลักชัวรี รวมไปถึงห้องนอนสไตล์วินเทจ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเลือกจากความชอบและไม่ลืมความเป็นตัวเอง เพื่อให้ได้ห้องนอนที่ถูกใจมากที่สุด

 

การนอนที่ดี ไม่ได้อยู่แต่เพียงเรื่องการดูแลสุขภาพทางกายและสุขภาพใจเท่านั้น แต่คุณภาพการนอนที่ดีในทุกคืนเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากเรามีห้องนอน ที่สวย สะอาด ถูกสุขลักษณะ จะทำให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ AP Thai ขอมาแชร์เคล็ดลับการจัดห้องนอนให้สวยงาม สบายตา ให้ทุกคนได้ลองไปทำตามเพื่อสุขภาพการนอนที่ดีไปพร้อมกัน จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลย!

 

เคล็ดลับการจัดห้องนอนให้น่าอยู่และถูกสุขลักษณะ

1. ห้องนอนต้องอยู่ในมุมที่ดีที่สุดของบ้าน

ห้องนอน

 

  • ห้องนอนควรอยู่ในมุมหรือตำแหน่งที่เงียบสงบ: ไม่มีเสียงรบกวน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพักผ่อน การนอนหลับ มีสมาธิในการทำกิจกรรมต่าง ๆ จดจ่อกับสิ่งที่ทำได้มากขึ้น อย่างการอ่านหนังสือ การทำงาน 
  • ห้องนอนควรอยู่ในจุดที่มีอากาศถ่ายเทที่สะดวก: ไม่อบอ้าวจนเกินไป เพื่อให้พักผ่อนได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องสุขอนามัย เพราะการที่ลมพัดผ่าน อากาศจะถ่ายเท ทำให้ห้องไม่มีกลิ่นอับ ไม่มีกลิ่นตกค้าง ส่งผลดีต่อระบบหายใจ
  • ห้องนอนควรอยู่ในจุดที่รับแสงแดดอ่อน ๆ : เลือกห้องนอนในตำแหน่ง หรือทิศที่ได้รับแสงแดดอุ่น ๆ ที่ส่องเข้ามา ในยามเช้า เพื่อช่วยให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น และแดดไม่ส่องแรง ๆ ในช่วงเวลากลางวัน ทำให้พักผ่อนได้อย่างสบาย
    • ทิศห้องนอน และทิศหัวนอนที่แนะนำ:  ทิศเหนือ, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าจะทำให้ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่นไม่ปวดหัว และแสงแดดไม่ส่องในช่วงเวลากลางวัน 
    • ทิศห้องนอน และทิศหัวนอนที่ควรหลีกเลี่ยง:  ทิศใต้, ทิศตะวันตก, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดในช่วงเวลากลางวัน จนถึงช่วงเย็น ทำให้ห้องร้อนอบอ้าวได้ หากไม่สามารถเลี่ยงได้แนะนำให้ติดผ้าม่านกันแสงไว้ เพื่อลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวห้องนอน

 

ศึกษาวิธีการวางตำแหน่งและทิศห้องนอนที่เหมาะสม เพื่อเสริมชีวิตให้ปัง ๆ ตามอ่านต่อได้ที่  นอนหันหัวไปทางไหนดี? รวมวิธีดูทิศนอนและเลือกเตียงถูกฮวงจุ้ย

 

2. เลือกเครื่องนอนที่ดีที่สุด ไม่กั๊ก

เครื่องนอน

 

การจัดห้องนอน ไม่ใช่แค่การเลือกมุมห้อง หรือตำแหน่งของการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมเครื่องนอนด้วยเช่นกัน โดยเครื่องนอนที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องนอนที่มีขนาดใหญ่ หรือต้องมีราคาแพงก็ได้ แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับผู้นอนที่สุด

 

  • ควรมีขนาดที่กำลังดี พอดีกับตัวผู้นอน ขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เพื่อตอบโจทย์ด้านสรีระ ทำให้นอนหลับสบายมากขึ้น 
  • วัสดุของเครื่องนอนควรเลือกให้สบายที่สุด อย่างที่นอนที่ทำจากยางพารา ที่มีความนุ่ม แต่แน่น นอนหลับได้สบาย อีกทั้งช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ ช่วยลดไรฝุ่นอีกด้วย การได้นอนบนที่นอนที่มีคุณภาพ จะทำให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และช่วยลดปัญหาการปวดเมื่อยได้ในระยะยาว

 

3. วางตำแหน่งเตียงให้ถูกสุขลักษณะ

การวางเตียง

 

ตำแหน่งของเตียงนอนนั้น นอกจากจะต้องวางให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยเพื่อเสริมดวงชะตาแล้ว ก็อย่าลืมเลือกตำแหน่งที่ดีเพื่อเสริมสร้างสุขลักษณะด้วยเช่นกัน ซึ่งการจัดห้องนอนให้น่านอนนั้น ควรวางเตียงให้อยู่ในที่ที่มีแสงแดดเข้าถึง เพราะแสงแดดจะช่วยปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มความสดชื่น ความกระปรี้กระเปร่า แถมยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดความอับชื้นภายในห้องได้อีกด้วย

 

นอกจากนี้ไม่ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศบนหัวเตียง เนื่องจากความเย็นของแอร์จะพัดผ่านศีรษะอยู่ตลอด อาจทำให้ไม่สบายได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หายใจติดขัด

 

4. จัดห้องนอนให้มีขนาดพอเหมาะ

ขนาดห้องนอน

 

ห้องนอนที่น่าอยู่นั้นควรมีขนาดที่พอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป จากคู่มือที่สถาปนิกแนะนำ ห้องนอนขนาดมาตรฐานนั้นควรมีขนาดที่ 6.5 ตารางเมตร และเพดานควรสูงอย่างน้อย 2.1 เมตรขึ้นไป ซึ่งเป็นขนาดห้องนอนที่กำลังดี ห้องนอนไม่กว้างเกินไปจนรู้สึกโล่ง สร้างบรรยากาศที่โดดเดี่ยว ไม่ปลอดภัย หรือห้องนอนแคบจนเกินไป จนขยับตัว เดินไปเดินมาแล้วรู้สึกอึดอัด

 

สำหรับบ้านไหนที่ห้องนอนมีขนาดเล็ก หรือแคบจนเกินไป AP Thai มีเทคนิคเปลี่ยนห้องนอนเล็กๆ ให้ดูกว้างขึ้น ได้แก่

 

  • นำเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นออกจากห้องนอนให้ได้มากที่สุด: โดยเลือกไว้เฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเท่านั้นอย่าง ตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะทำงาน 
  • ลดขนาดเตียงให้เล็กลง: เช่น จากเตียง 6 ฟุต ปรับเป็นเตียง 5 ฟุต หรือจากเตียง 5 ฟุต ปรับเป็นเตียง 3.5 ฟุต เพราะจะทำให้เหลือพื้นที่ในห้องมากขึ้น มีอากาศถ่ายเท เดินหรือขยับตัวได้ง่ายขึ้น
  • เลือกใช้กระจกขนาดใหญ่: เพราะกระจกบานใหญ่ จะช่วยทำให้ห้องนอนดูกว้างขึ้น โปร่งโล่งสบายกว่าเดิม และที่สำคัญทำให้ห้องนอนดูไม่อึดอัดอีกด้วย
  • การเลือกใช้ผ้าม่าน: แนะนำให้ใช้ผ้าม่านทั้งแบบโปร่งแสงและทึบแสง โดยในเวลากลางวัน แนะนำให้ใช้ผ้าม่านโปร่งแสง จะทำให้ห้องนอนดูโล่ง โปร่งสบายยิ่งขึ้น และใช้ผ้าม่านแบบทึบแสงในเวลากลางคืนเพื่อป้องกันแสงจากภายนอก ไม่ให้รบกวนเข้ามาในห้อง ทำให้นอนหลับได้สนิท

 

นอกจากนี้หากบ้านไหนที่มีพื้นที่ห้องนอนกว้างเกินไป จนทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว และไม่ปลอดภัย ลองนำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู

 

  • เพิ่มเฟอร์นิเจอร์เข้าไปในห้องนอน: อย่างชั้นวางของ เบาะนั่ง bean bag โคมไฟตั้งโต๊ะ จัดไว้เป็นมุมโปรด หรือมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือไว้ในห้องนอน เพื่อให้ห้องดูอบอุ่น น่าอยู่มากขึ้น
  • เลือกใช้ฉากกั้นห้อง: กั้นเป็นอีกหนึ่งมุม อย่างมุมห้องทำงาน มุมแต่งตัว แบ่งห้องให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นอีกด้วย

 

5. ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำความสะอาดได้ง่าย

เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน

 

เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนที่ทำความสะอาดได้ง่าย มองเห็นเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ห้องนอนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค โดยทริกการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน

 

  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีความซับซ้อน: ออกแบบด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก อย่างเฟอร์นิเจอร์ที่มีโค้งเว้าเยอะ จะทำให้เศษฝุ่นสะสมได้ง่าย และเข้าไปทำความสะอาดได้ยากขึ้น
  • ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเล็ก: และวางห่างจากเตียงให้ได้มากที่สุด เพื่อลดโอกาสการสูดดมฝุ่นในขณะที่อยู่ในห้องนอน

 

6. จัดเก็บของในห้องนอนให้เป็นระเบียบ

การจัดห้องนอน

 

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำตามกันได้ง่าย ๆ คือ การจัดเก็บของในห้องนอนให้เป็นระเบียบ ควรเก็บของแต่ละหมวดหมู่ให้อยู่ในที่ทางที่เหมาะสม อย่างเก็บเอกสาร สมุดปากกา ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน หรือจัดของบนโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย เก็บอุปกรณ์เสริมความงาม น้ำหอม เครื่องสำอางในชั้นวางของบนโต๊ะเครื่องแป้งให้เป็นระเบียบ มีกล่องจัดระเบียบสำหรับของชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ห้องนอนสะอาด มองแล้วสบายตา แถมยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นอีกด้วย 

 

7. สร้างกลิ่นที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรต่อสุขภาพ

กลิ่นในห้องนอน

 

นอกจากการจัดวางและการทำความสะอาดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ห้องนอนของเราน่าอยู่ และให้ความผ่อนคลาย นั่นก็คือกลิ่นหอม ๆ ในห้อง โดยเลือกกลิ่นที่ให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอย่าง

 

  • กลิ่นผลไม้อ่อน ๆ: กลิ่นผลไม้ตระกูลซิตรัส หรือกลิ่นเบอร์รี่ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่น รู้สึกแอคทีฟ 
  • กลิ่นดอกไม้: สามารถเลือกได้ตามใจชอบ กลิ่นกุหลาบ กลิ่นมะลิ กลิ่นลาเวนเดอร์ เพื่อช่วยให้นอนหลับได้ดี 
  • กลิ่นธรรมชาติ: จะให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย กลิ่นดอกกระดังงา กลิ่นคาโมมายล์ ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย

 

สามารถเลือกใช้ได้ทั้งสเปรย์ปรับอากาศ ถุงหอม ก้านหอมน้ำมันปรับระเหย เทียนหอม นอกจากจะให้กลิ่นหอม ๆ ในห้องนอนแล้วยังช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ห้องนอนน่าอยู่ เสริมสร้างบรรยากาศที่ดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

8. เลือกใช้สีที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบ

สีในห้องนอน

 

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญมาก คือ การเลือกสีในห้องนอน เพราะเรียกได้ว่าเป็นตัวสร้างบรรยากาศของห้องเลยก็ว่าได้ ห้องนอนจะน่าอยู่ สบายตา หรืออึดอัด ไม่ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับสีที่เลือกทาในห้องนอนเลย เพราะสีช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ อย่างโทนสีขาว สีครีม ที่ให้บรรยากาศดูสบายตาและผ่อนคลาย สามารถดูวิธีการเลือกสีห้องนอนได้จาก สีห้องนอนตามฮวงจุ้ยทาสีอะไรให้สวย แถมถูกโฉลกตามวันเกิด

 

นอกจากการทาสีแล้วก็ยังสามารถติดวอลเปเปอร์ได้เช่นกัน แนะนำว่าควรลองหาไอเดียเลือกวอลเปเปอร์ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ เพราะวอลเปเปอร์บางลายดูสวยงาม แต่พอติดไปแล้ว อาจจะไม่เหมาะกับห้องนอนก็ได้ โดยไอเดียตัวอย่างวอลเปเปอร์ยอดนิยมตามสไตล์แต่ละห้องนอน

 

  • ห้องนอนสไตล์โมเดิร์น: ให้เลือกวอลเปเปอร์ที่เน้นความทันสมัย มีลวดลายอิสระตามใจชอบ มักเลือกเป็นวอลเปเปอร์ที่มีสีขาว ไม่ฉูดฉาด ตัดด้วยลายเส้นให้ดูโดดเด่น มีชีวิตชีวา แต่ไม่ต้องเยอะจนเกินไป
  • ห้องนอนสไตล์มินิมอล: ควรเลือกวอลเปเปอร์สีล้วน โดยเน้นโทนสีขาว สีครีม สีน้ำตาล สีดำ หรืออาจเลือกวอลเปเปอร์สีเดียวแต่มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาแทน อย่างวอลเปเปอร์ลายหินอ่อนเสมือนจริง เพื่อให้ดูสบายตา เรียบง่ายตามคอนเซ็ปต์ของห้องสไตล์มินิมอล
  • ห้องนอนสไตล์หรูหรา: ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่เป็นลายเรขาคณิต หรือรูปทรงที่มีความสะดุดตา เลือกตกแต่งที่ดีเทลเล็ก ๆ อย่างสีทองตัดขอบ จะช่วยเพิ่มความหรูหราและความละเอียดประณีตมากยิ่งขึ้น
  • ห้องนอนที่เน้นลวดลาย:  อย่างลายดอกไม้ ลายเส้น ลายการ์ตูน การเลือกลายเล็ก ๆ จะทำให้ห้องนอนดูมีพื้นที่ ดูสว่างมากขึ้น หรือเลือกลายใหญ่จะทำให้ห้องดูโดดเด่นออกมา หากห้องนอนมีขนาดพื้นที่จำกัด ให้เลือกวอลเปเปอร์ลายเส้นขวาง จะช่วยให้ห้องนอนดูกว้างมากขึ้น

 

9. ใช้แสงไฟห้องนอนที่เหมาะกับการนอนหลับ

แสงไฟห้องนอน

 

การเลือกแสงไฟในห้องนอนมีผลต่อการนอนหลับ เพราะถ้าหากเลือกแสงไฟที่สว่างจ้าจนเกินไป จะทำให้ปวดตา ปวดศีรษะ หรือถ้าหากไฟมืดเกินไป อาจทำให้มึนหัว เวียนศีรษะ ส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในห้องนอน อย่างการทำงาน การอ่านหนังสือ โดยแสงไฟที่เหมาะกับห้องนอนควรเลือกตามนี้

 

  • แสงไฟโทนอุ่น (Warm White): อย่างสีเหลืองหรือสีส้ม จะช่วยถนอมสายตา ทำให้ดวงตาไม่ทำงานหนัก ไม่ปวดตา และยังทำให้ร่างกายไม่ตื่นตัวเกินไปในเวลากลางคืน ทำให้นอนหลับสบาย พักผ่อนได้อย่างเต็มที่
  • ใช้ไฟที่ปรับระดับได้: สำหรับใครที่ชอบแสงไฟสีขาว อาจเลือกใช้ไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างที่ต้องการได้ อย่างการปรับแสงให้จ้าน้อยลงในช่วงเวลาก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายได้เข้าสู่โหมดพักผ่อน 
  • หลีกเลี่ยงการใช้แสงสีฟ้า: โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืด รวมไปถึงการใช้คอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้สายตาเสีย ปวดตา รวมไปถึงอาการตาแห้ง ทำให้นอนหลับได้ไม่สนิท

 

ใครที่อยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แสงไฟในห้องนอน สามารถอ่านต่อได้ที่นี่ สีไฟห้องนอนเลือกยังไง ให้นอนสบายเหมือนอยู่โรงแรม

 

10. อย่าลืมความเป็นตัวของตัวเอง

ห้องนอนมีสไตล์

 

อย่าลืมความเป็นตัวของตัวเอง ถือเป็นหัวใจหลักของการเลือกจัดห้องนอนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม ทั้งการจัดวาง เลือกสีห้อง เฟอร์นิเจอร์ ควรอิงจากความชอบของตนเองเป็นหลัก โดยลองจัดมุมที่ตนเองถนัด หรือมุมสำหรับทำงานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหากเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ในห้องนอนควรมีโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับนั่งอ่านหนังสือ พร้อมชั้นวางของเพื่อช่วยให้ห้องนอนมีระเบียบมากยิ่งขึ้น

 

การจัดห้องนอนที่มีความเป็นตัวเอง นอกจากจะได้ห้องที่ถูกใจตามความต้องการของตัวเองแล้ว ยังช่วยให้เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่แท้จริงอีกด้วย

 

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนห้องนอนในสไตล์ใหม่ ๆ ให้น่าอยู่มากขึ้น AP Thai มี 5 ไอเดียในการแต่งห้องนอนให้สวยเหมือนได้ห้องใหม่มาฝากกัน รับรองว่าจัดแล้วจะได้ห้องใหม่ที่สวยถูกใจ แถมนอนสบายทุกคืน

 

ไอเดียแต่งห้องนอนสวย ๆ หลับสบายในทุกๆ วัน

1. ห้องนอนสไตล์มินิมอล

ห้องนอนมินิมอล

 

ห้องนอนสไตล์มินิมอล เป็นสไตล์ห้องนอนที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นสไตล์ที่เรียบง่าย แต่ดูดีมีสไตล์ มักใช้โทนสีอ่อน อย่างสีขาว สีเทาอ่อน หรือสีเบจ ส่วนเฟอร์นิเจอร์เน้นที่ฟังก์ชันการใช้งาน ไม่เน้นลวดลายหรือสีสันฉูดฉาด โดยวิธีแต่งห้องสไตล์มินิมอลให้สวยถูกใจ พักผ่อนได้เต็มที่

 

  • ใช้เตียงไม้สีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาล 
  • เน้นการใช้ผ้าปูที่นอนสีขาวหรือสีครีมอ่อน ๆ เพื่อให้ดูสบายตามากที่สุด
  • ใช้ผ้าม่านแบบโปร่งแสง ให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึงห้องนอน และติดผ้าม่านแบบทึบแสงไว้ควบคู่กัน เพื่อป้องกันแสงส่องตอนกลางคืน

 

2. ห้องนอนสไตล์โมเดิร์น

ห้องนอนสไตล์โมเดิร์น

 

ห้องนอนสไตล์โมเดิร์น ห้องนอนที่มีดีไซน์ที่เรียบหรู Timeless ทันสมัยตลอดเวลา ไม่ตกยุค เน้นการออกแบบที่มีเส้นสายที่ชัดเจน มักใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีรูปทรงเรียบ ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน หรือตกแต่งที่มากเกินไป 

 

โทนสีที่นิยมแต่งในห้องนอนสไตล์โมเดิร์นมักจะเป็นสีขาว สีดำ สีเทา และสีน้ำตาลอ่อน รวมถึงสีเอิร์ธโทนอย่างสีเบจ และสีครีม เน้นการซ่อนไฟเพดานหรือมุมต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและทันสมัย รวมถึงของตกแต่งอย่างกรอบรูป แจกันดอกไม้ เพื่อให้ดีไซน์ของห้องนอนมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

 

  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ช่วยในการจัดระเบียบสิ่งของในห้อง
  • ตกแต่งด้วยผ้าปูที่นอน ผ้าห่มและหมอนที่เข้ากับสีของห้องนอน
  • เพิ่มพรมใต้เตียงหรือบริเวณที่ใช้งานบ่อย ๆ ช่วยเพิ่มความหรูหราขึ้นอีกระดับ

 

3. ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก

ห้องนอนโมเดิร์นคลาสสิก

 

สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกเป็นการผสมผสานความหรูหราในสไตล์โมเดิร์น สำหรับใครที่ชอบทั้งความเรียบหรูและความคลาสสิก และอยากให้มีสองสไตล์นี้รวมอยู่ในห้องเดียวกัน ลองใช้โทนสีอย่าง สีครีม สีเทา และสีดำ 

 

รวมไปถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ที่ประณีต ใช้ลวดลายและวัสดุที่ไม่เรียบจนเกินไป อย่างการบุหัวเตียงด้วยกำมะหยี่ ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลายโค้งมน และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงอย่างหินอ่อน โลหะ เพื่อให้ภาพรวมห้องดูหรูหรา

 

  • ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยผนังสีเข้ม ช่วยให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น
  • เพิ่มกิมมิกด้วยโคมไฟ บริเวณหัวเตียงให้ห้องดูสว่างมากขึ้น
  • ปูห้องด้วยพื้นไม้โทนสีเข้ม เพิ่มความสวยงาม คุมโทนห้องได้อย่างลงตัว

 

4. ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่

ห้องนอนโมเดิร์นลักซ์ชัวรี่

 

ใครที่ชอบห้องนอนหรูหราแบบในโรงแรม แนะนำให้ลองแต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ เพิ่มระดับความหรูหราผสมผสานกับสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เน้นการออกแบบที่มีความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่สื่อถึงความมีระดับ 

 

ใช้วัสดุที่มีความเงางามอย่างหินอ่อน กระจกเงา คุมโทนสีห้องอย่าง สีดำ สีขาว สีเทา เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีทองหรือสีเมทัลลิคเล็กน้อย พร้อมใช้โคมไฟแบบซ่อนตามผนัง ช่วยให้ห้องนอนดูนุ่มนวล อบอุ่น และสร้างบรรยากาศที่เรียบหรู

 

  • เลือกเตียงนอนและเครื่องนอนที่ดูมีเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มความหรูหรามากขึ้น
  • เพิ่มงานศิลปะในห้องนอน เช่น ภาพวาดหรือของตกแต่ง ทำให้ห้องดูโดดเด่นและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
  • จัดแสงไฟแบบเลเยอร์เพื่อเพิ่มมิติให้กับห้องนอน เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟติดผนัง และไฟซ่อนในจุดต่าง ๆ

 

5. ห้องนอนสไตล์สไตล์วินเทจ

ห้องนอนสไตล์สไตล์วินเทจ

 

การจัดห้องนอนสวย ๆ ในสไตล์วินเทจ ให้ห้องมีบรรยากาศที่อบอุ่น พร้อมได้กลิ่นอายความเป็นยุคสมัยก่อน เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาล หรือเตียงที่มีโครงสร้างแกะสลักเล็กน้อย ตกแต่งผนังห้องด้วยลวดลายดอกไม้ 

 

เลือกใช้ผ้าปูที่นอนและหมอนที่มีลวดลายเข้ากัน เช่น ลายดอกไม้หรือสีอ่อน จะช่วยเสริมให้ห้องนอนดูสบายตาและอบอุ่น พร้อมเติมบรรยากาศแบบวินเทจให้สมบูรณ์ ชวนให้น่าพักผ่อนในทุกค่ำคืน

 

  • เพิ่มความอ่อนหวานของห้องนอนด้วยผ้าลูกไม้สำหรับใช้คลุมเตียงหรือใช้เป็นผ้าม่านโปร่งแสง
  • ตกแต่งผนังด้วยกรอบรูปหรือกระจกแนวย้อนยุค เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับห้อง
  • สร้างบรรยากาศแบบวินเทจที่ผ่อนคลาย ด้วยโคมไฟและแสงไฟอ่อน ๆ พร้อมกลิ่นหอมจากดอกไม้

 

ออกแบบตกแต่งห้องนอนให้สวยงาม น่าอยู่ เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่

การมีห้องนอนที่น่าอยู่เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะการตกแต่งห้องนอนที่มีความสวยงามในแบบที่เจ้าของห้องชื่นชอบ ที่ให้รู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับได้อย่างเต็มที่ และยังถูกสุขอนามัย จะช่วยให้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีมากยิ่งขึ้น

 

เพิ่มความรู้เกี่ยวกับห้องนอน ได้ที่นี่!

 

 

เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต

เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ

RELATED ARTICLES