ต้องบอกว่าบ้านที่อยู่อาศัยมานานหลายสิบปี บางจุดภายในบ้านก็จะเสื่อมโทรมและเก่าไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะหาของตกแต่งใหม่ๆ ซื้อเฟอร์นิเจอร์สวยๆ มาตั้งไว้ก็แล้ว ยังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเท่าที่ควร ปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ของตกแต่งก็ได้ ซึ่งหากลองสังเกตดีๆ ผนังบ้านของคุณอาจจะมีอายุการใช้งานที่นานแล้ว ทำให้สีของผนังเริ่มลอก หม่นหมอง ดูไม่สดใสและล้าสมัย
ดังนั้น เพื่อให้บ้านของคุณดูมีชีวิตชีวาเหมือนใหม่ ต้องลงมือติดวอลเปเปอร์สวยๆ โดยบทความนี้จะมาแนะนำ 5 วิธีติดวอลเปเปอร์ภายในบ้านด้วยตัวเอง งานนี้จะทำให้คุณได้บ้านใหม่แบบไม่รู้ตัว!
วางแผนและคำนวณพื้นที่การติดตั้ง
ก่อนที่จะลงมือติดวอลเปเปอร์เอง คุณจะต้องทำการวัดความสูงและความกว้างของผนังห้องให้เรียบร้อย โดยส่วนใหญ่บ้านทั่วไปจะมีความสูงตามมาตรฐานไม่เกิน 3 เมตร ซึ่งเมื่อได้ความสูงและความกว้างมาแล้ว ก็เริ่มวิธีคำนวณวอลเปเปอร์ได้เลย โดยขนาดของวอลเปเปอร์จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือ ม้วนเล็กจะมีขนาดหน้ากว้าง 0.53 ซม. และยาว 10 ซม. และสำหรับม้วนใหญ่หน้ากว้าง 106 ซม. และยาว 15.60 ซม.
ตัวอย่างการคำนวณ เช่น ขนาดความกว้างของผนังอยู่ที่ 4.65 เมตร ให้นำไปหารด้วย 1.5 สำหรับวอลเปเปอร์ม้วนเล็ก และจะได้เท่ากับ 3.1 ม้วน แนะนำว่าสามารถปัดขึ้นไปเป็น 4 ม้วนได้เลย ทั้งนี้ หากเป็นวอลเปเปอร์ม้วนใหญ่ให้นำความกว้างของผนังไปหารด้วย 5 แทน
เลือกสไตล์และลายของวอลเปเปอร์
หัวใจสำคัญของวิธีติดวอลเปเปอร์คือ ต้องเลือกวอลเปเปอร์ให้ถูกใจ ตรงใจเสียก่อน เพราะหากเลือกและติดวอลเปเปอร์เองไปแล้วเกิดไม่ถูกใจ ต้องรื้อใหม่อาจจะเสียเวลา เสียเงินได้ โดยหลักๆ วอลเปเปอร์ก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบมีลาย ผิวสัมผัส หรือสีสันที่เรียบๆ ซึ่งหากเป็นประเภทของห้องชนิดต่างๆ สีที่เหมาะสมหรือไอเดียที่อยากแนะนำมีดังนี้
- ห้องน้ำ คุณสามารถเลือกสไตล์ที่ใช่ที่ชอบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสีเรียบๆ หรือจะเป็นลวดลายต้นไม้ เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย แต่อยากแนะนำว่าควรเลือกวอลเปเปอร์แบบกันน้ำ ชนิดที่ทำจาก Fiber Glass เพราะทนต่อความชื้นกว่าชนิดอื่นๆ
- ห้องครัว วอลเปเปอร์ที่ใช้ติดห้องครัวอาจจะต้องมีความพิเศษมากขึ้นหน่อย เพราะห้องครัวเป็นบริเวณที่มีความร้อน ดังนั้น ต้องเลือกวอลเปเปอร์ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี สำหรับสีที่เหมาะกับห้องครัว ควรเป็นสีที่สะอาดตาจะได้ทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งนี้ บริเวณที่เป็นจุดทำกับข้าวควรเลือกใช้สีที่เข้มขึ้นมาหน่อย เช่น สีดำ น้ำตาล เทาเข้ม
- ห้องรับแขก สีที่ควรใช้ควรเป็นสีที่สว่าง ให้ความรู้สึกอบอุ่น เพราะห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องที่เอาไว้ใช้ในการพักผ่อน ทำกิจกรรมต่างๆ ประเภทของวอลเปเปอร์ที่สร้างความหรูหราได้ดีจะเป็น Textile Wallcovering และสีของวอลเปเปอร์ไม่ควรเป็นสีที่ดุดัน ฉูดฉาด นอกจากนี้ ยังสามารถตกแต่งห้องรับแขก ด้วยลูกเล่นอื่นๆ ได้อีกด้วย
- ห้องนอน ประเภทที่ควรเลือกใช้จะเป็น Foam Wallcovering สีโทนเย็น สบายตา หรือจะเป็นโทนเข้มๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้ายังไม่ถูกใจก็สามารถเข้าไปดู 9 ไอเดียเลือกวอลเปเปอร์ห้องนอน ได้เลย
เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือให้พร้อม
เพื่อให้ขั้นตอนวิธีติดวอลเปเปอร์เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว คุณควรเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ติดวอลเปเปอร์ให้พร้อม ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเองนั้นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
- แผ่นรีดวอลเปเปอร์ อุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยไล่ฟองอากาศที่อยู่ใต้วอลเปเปอร์ เป็นการเก็บความเรียบร้อยของงาน
- ลูกกลิ้งจุ่มกาว ใช้จุ่มกาวและทาลงบนแผ่นหลังของวอลเปเปอร์ การใช้ลูกกลิ้งจะช่วยประหยัดเวลาในการทาและเนื้อกาวจะเรียบ มีความสม่ำเสมอ
- ลูกกลิ้งกดรอยต่อ อุปกรณ์ตัวนี้ใช้สำหรับการกดวอลเปเปอร์ให้เรียบเนียน รวมทั้งบริเวณรอยต่อของกระดาษไม่ให้เกิดรอยย่น
- แปรงทากาว ควรใช้แปรงจุ่มกาวและทาลงไปบริเวณขอบๆ ของผนังห้อง เพื่อให้การติดวอลเปเปอร์ช่วงขอบนั้นแน่นมากยิ่งขึ้น
- กาวติดวอลเปเปอร์ ประเภทของกาวจะมีหลายแบบด้วยกัน เช่น ชนิดน้ำ ชนิดผง หรือกาวสำเร็จรูป
- บันได เพื่อความปลอดภัยควรเลือกใช้บันไดในการปีนไปยังพื้นที่สูงๆ และทำการติดวอลเปเปอร์
- ผ้าเช็ดทำความสะอาด ในขณะทำงานอาจจะมีกาวเลอะมือ หรือบริเวณขอบๆ ของวอลเปเปอร์ แนะนำว่าให้พกผ้าเช็ดทำความสะอาดไว้เช็ดคราบกาว รอยเปื้อนต่างๆ
- ตลับเมตร ใช้วัดคำนวณพื้นที่ และวัดแผ่นวอลเปเปอร์ก่อนทำการตัด
- คัตเตอร์ ควรใช้คัตเตอร์ใหม่ที่มีความคม เพราะหากไม่คมเมื่อตัดออกมาจะทำให้ขอบวอลเปเปอร์ยุ่ยได้
- ไม้บรรทัด ใช้วัดบริเวณขอบวงกบประตูหรือหน้าต่าง
- เกรียงโป้ว อุปกรณ์ตัวนี้จะใช้ในส่วนของการเตรียมผนังหรือลอกวอลเปเปอร์ตัวเก่าออก เพื่อให้ผนังมีพื้นผิวเรียบและไม่ขรุขระ
- ผ้าใบกันเปื้อน ใช้รองพื้นรอบๆ บริเวณห้อง เพื่อกันเปื้อนจากกาวหรือเศษผงสกปรกจากการเตรียมผนัง
เตรียมผนังก่อนติดตั้งวอลเปเปอร์
วอลเปเปอร์จะออกมาสวยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมผนังห้องให้พร้อมก่อนจะลงมือติดวอลเปเปอร์เอง เพราะนอกจากจะช่วยให้วอลเปเปอร์ออกมาเรียบ สวย ไม่มีผิวขรุขระแล้ว ก็ยังเป็นการรักษา บำรุง ซ่อมแซมผนังของห้องให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
● ปิดอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าและถอดเต้าปลั๊กไฟที่ผนังออก
เพื่อความปลอดภัยของคุณ ก่อนติดวอลเปเปอร์เอง ควรปิดระบบไฟที่บ้านก่อน เพราะการติดวอลเปเปอร์ต้องมีการใช้น้ำหรือกาว ซึ่งอาจจะหยดไปโดยเต้าปลั๊กไฟตรงผนังห้องได้ และต้องถอดกรอบเต้าปลั๊กไฟที่ผนังออกด้วย เพื่อให้การติดวอลเปเปอร์นั้นเนียน สวยงาม
● ในกรณีที่มีวอลเปเปอร์เก่าติดอยู่ให้ลอกออก
หากบ้านไหนที่มีวอลเปเปอร์เก่าติดอยู่ควรทำการลอกออกก่อน ซึ่งสามารถใช้วิธีลอกวอลเปเปอร์ง่ายๆ โดยนำเกรียงโป้วค่อยๆ แซะขอบๆ ของวอลเปเปอร์เก่าออกอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ ขูดกาวสีเหลืองที่ติดผนังออกให้หมด ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลานานพอสมควร
● ตรวจสอบความเสียหายของผนัง
หากมีรอยแตก รอยร้าว น้ำรั่วซึม หรือเกิดเชื้อรา จำเป็นต้องทำการซ่อมแซมผนังก่อน ซึ่งถ้าคุณข้ามขั้นตอนนี้ไป หรือปล่อยปละละเลยไม่ตรวจสอบให้ดี เมื่อติดวอลเปเปอร์ลงไปแล้วจะทำให้ผนังของห้องเสียหายมากยิ่งขึ้น
● ทำความสะอาดและขัดผนังให้เรียบ
วิธีติดวอลเปเปอร์ให้สวย เรียบเนียนแบบมืออาชีพ จำเป็นต้องขัดพื้นผนังให้เรียบ และทำความสะอาดฝุ่น ผงต่างๆ โดยสามารถใช้กระดาษทรายขัดหรือหินขัดผนัง ทำการขัดบริเวณที่มีเศษทราย กรวด หินหรือปูนออก
● ทาสีรองพื้นให้ผนัง
หากเป็นไปได้ควรทาสีรองพื้น เพื่อที่จะช่วยให้วอลเปเปอร์ยึดติดกับผนังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น เชื้อราบนผนัง
วิธีติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเอง
การติดวอลเปเปอร์เองไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด แต่อาจจะต้องอาศัยเวลาในการทำเพราะมือใหม่ยังไม่ชำนาญมากนักต้องค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ วิธีการติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเองง่ายๆ สามารถทำตามได้ดังนี้
- นำความกว้างของวอลเปเปอร์ไปวัดตำแหน่งและทำสัญลักษณ์ หรือร่างด้วยดินสอทิ้งไว้บนผนัง ซึ่งจะทำให้ทราบว่าผนังห้องแต่ละด้านต้องใช้วอลเปเปอร์กี่แผ่น และแนวทางการติดตรงกับที่ร่างไว้หรือไม่
- ตัดวอลเปเปอร์ตามความสูงของผนังและตัดตามจำนวนแผ่นที่ต้องใช้
- ปูพื้นด้วยผ้าใบกันเปื้อน คว่ำแผ่นวอลเปเปอร์ลงและเริ่มใช้ลูกกลิ้งจุ่มกาวทาลงไป จากนั้นก็พับวอลเปเปอร์เข้าหากันแบ่งเป็น 4 ส่วน เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบ
- นำแปรงจุ่มกาวแล้วเน้นทาลงไปตรงขอบๆ ของผนังห้อง
- แปะวอลเปเปอร์ตามรอยเส้นที่ร่างไว้ โดยเริ่มต้นจากการแปะด้านบนตรงขอบของเพดาน และแปะวอลเปเปอร์อย่างระมัดระวัง พร้อมกดวอลเปเปอร์ลงไปกับผนังให้แน่นๆ และใช้แผ่นรีดวอลเปเปอร์ค่อยๆ รีดไล่ลมออกไปด้านข้าง
- ติดวอลเปเปอร์แผ่นต่อไป โดยให้ใช้ขั้นตอนเดิมคือ ทากาวที่แผ่นหลังของวอลเปเปอร์ และหันไปใช้แปรงจุ่มกาวทาลงไปตรงขอบๆ ของผนัง เพื่อให้กาวติดแน่นขึ้น และนำไปแปะต่อๆ กัน ทำไปเรื่อยๆ จนครบ
- หลังจากนั้นให้ใช้ลูกกลิ้งกดรอยต่อ กลิ้งตรงรอยตะเข็บบนวอลเปเปอร์แต่ละอัน และควรระมัดระวังอย่าดันแรงเกินไปจนบีบกาวออก
- ส่วนเกินของวอลเปเปอร์สามารถใช้คัตเตอร์ค่อยๆ ตัดออกได้ เช่น ตรงขอบปลั๊ก ขอบหน้าต่าง
- เช็ดกาวส่วนเกินตรงขอบวอลเปเปอร์ออกด้วยฟองน้ำเปียกหมาดๆ หรือใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด หลังจากนั้นปล่อยให้วอลเปเปอร์แห้ง ทิ้งไว้อย่างน้อย 15-30 นาที เป็นอันจบขั้นตอน
คำนึงถึงความปลอดภัย
ในการทำงานทุกขั้นตอน ควรคำนึงถึงความปลอดภัยมีการสวมอุปกรณ์ Safety เช่น ถุงมือ หน้ากากป้องกันกลิ่นกาว เพื่อให้การทำงานดำเนินไปได้ด้วยดี รวมทั้งพื้นที่ของการทำงานจะต้องไม่มีเด็กมาวิ่งเล่น และขนย้ายอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องออกให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการติดตั้งวอลเปเปอร์ให้สามารถเสร็จได้อย่างรวดเร็ว
ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อติดตั้งวอลเปเปอร์
ในการติดวอลเปเปอร์เองครั้งแรก มือใหม่ก็อาจจะต้องพบเจอปัญหายอดฮิตของวิธีติดวอลเปเปอร์อย่างแน่นอน ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยนั้นจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
- เกิดรอยย่นขณะติดตั้ง หากเจอปัญหานี้ ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถค่อยๆ ดึงแผ่นวอลเปเปอร์ออกจากผนังจนกระทั่งถึงรอยยับ จากนั้นก็สามารถทำการติดเข้าไปใหม่
- วอลเปเปอร์ลายไม่ตรงกัน ต้องย้อนกลับไปถึงเรื่องการวัดความกว้างของวอลเปเปอร์ที่จะต้องคำนวณให้ดี เพื่อไม่ให้การติดวอลเปเปอร์แบบลาย มีความเหลื่อมกัน
- ฟองอากาศกวนใจ เมื่อติดวอลเปเปอร์ไปแล้วยังพบว่า ยังมีฟองอากาศนูนๆ อยู่ สร้างความขัดตาได้ไม่น้อย ดังนั้น สิ่งที่คุณทำได้คือ ไล่อากาศออกให้ดีในขั้นตอนการติด หรือแก้ปัญหาได้โดยการใช้เข็มเล็กๆ เจาะไปที่บริเวณนั้นเพื่อไล่ลมออก
- วอลเปเปอร์หลุด ปัญหาวอลเปเปอร์หลุด อาจมีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น ในขั้นตอนการเตรียมผนังนั้น ผนังยังไม่เรียบพอ ไม่ทำความสะอาดผนังให้ดีส่งผลให้ยังมีคราบฝุ่นเกาะอยู่ การเลือกใช้กาวที่ผิดคุณสมบัติ เป็นต้น
- รอยต่อหลุดลอก ต้องเน้นย้ำเลยว่าควรใช้แปรงทากาว ทาขอบๆ ของผนังก่อนทุกครั้ง เมื่อติดวอลเปเปอร์ไปแล้วจะทำให้ขอบติดแน่นขึ้น
การดูแลวอลเปเปอร์ให้ใหม่อยู่เสมอ
สิ่งที่ควรใส่ใจและควรทำถ้าอยากให้วอลเปเปอร์ดูสะอาด สดใส และใหม่อยู่เสมอคือ การหมั่นดูแล โดยสามารถนำวิธีทำความสะอาดวอลเปเปอร์ง่ายๆ ด้านล่างนี้ไปลองทำตามกันได้เลย
- ประเภทของวอลเปเปอร์ที่กันน้ำได้ ต้องเช็ดฝุ่นโดยใช้ผ้าแห้งและสะอาด ทั้งนี้ ยังสามารถใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดไปที่บริเวณรอยเปื้อน หรือนำน้ำไปผสมกับน้ำยาล้างจาน หรือน้ำสบู่แล้วนำมาเช็ดก็จะช่วยให้คราบสกปรกหลุดออกได้
- ประเภทวอลเปเปอร์ที่ไม่กันน้ำ แนะนำให้ทำความสะอาดโดยการใช้ไม้ขนไก่ หรือที่ปัดฝุ่นทำความสะอาดแทนการใช้น้ำ
ทั้งนี้ ข้อควรระวังคือ ห้ามใช้สารทำความสะอาดที่เป็นกรดหรือส่วนผสมที่เป็นสารเคมี ทินเนอร์ น้ำยาล้างเล็บ เด็ดขาด เพราะจะทำให้วอลเปเปอร์เสียหายได้
ถึงแม้ว่าวิธีติดวอลเปเปอร์จะมีขั้นตอนที่ต้องใช้แรงกายและเวลาพอสมควร แต่หากคุณมีเวลาก็สามารถทำตามได้แบบง่ายๆ โดยอาจจะขอความร่วมมือจากคนในครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้กับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัวแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นห้องที่มีความสวยงาม สดใส ในสไตล์ที่คุณและครอบครัวชื่นชอบ และทำให้บ้านที่อยู่อาศัยมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา
