ปัญหาตู้เย็นไม่เย็น ถือว่าเป็นปัญหาทั่วไปที่สามารถพบได้ทุกบ้าน โดยสาเหตุตู้เย็นไม่เย็นนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และสามารถส่งผลให้เกิดปัญต่อเนื่องตามมาอีกมากมาย เช่น ตู้เย็นทำงานหนักจนค่าไฟแพงขึ้น อายุการใช้งานของตู้เย็นสั้นลง ของสดในตู้เย็นเกิดการเน่าเสีย และส่งกลิ่นเหม็น เป็นต้น ดังนั้น ในบทความนี้ทาง AP Thai จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสาเหตุตู้เย็นไม่เย็น พร้อมกับวิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นแบบเบื้องต้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ช่างก็สามารถซ่อมเองได้ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!
เผย 10 สาเหตุตู้เย็นไม่เย็น ทำความเข้าใจ ก่อนแก้ไขอย่างตรงจุด
ก่อนจะรู้ถึงวิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นนั้นเราจะไปทำความรู้จักกับสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นเสียก่อน เพื่อจะได้ทำความเข้าใจ และสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด โดย 10 สาเหตุตู้เย็นไม่เย็นนั้นมีทั้งหมด ดังนี้
1.ของเต็มตู้เย็น
สาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นที่ทุกคนอาจจะคาดไม่ถึง คือ ของเต็มตู้เย็น ไม่ว่าจะเป็นของสด ผัก ผลไม้ ขนม นม หรือสิ่งอื่นๆ ที่แช่อยู่ภายในตู้เย็นนั้นสามารถส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะทำให้ความเย็นไหลเวียนอย่างทั่วถึง และถ้าหากจัดเรียงภายในตู้เย็นอย่างไม่เป็นระเบียบก็จะไปขวางการไหลเวียนความเย็นของตู้เย็น และจะยิ่งทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นจนเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ทุกคนจึงควรจัดของในตู้ให้เป็นระเบียบ และควรใส่ของในตู้เย็นให้เหมาะสมกับขนาดของตู้เย็น
2.นำของร้อนเข้าสู่ตู้เย็นทันที
การนำของร้อนใส่ในตู้เย็นทันที เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น เพราะว่าตู้เย็นจะพยายามทำให้ของทุกอย่างภายในตู้อยู่ในอุณหภูมิที่เท่ากัน เมื่อเรานำของร้อนเข้าไปในตู้เย็นโดยที่ไม่รอให้อุ่น หรือเย็นลง จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะทำให้ของร้อนนั้นมีอุณหภูมิเท่ากับของอื่นๆ ที่แช่ไว้ในตู้เย็น ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นโดยไม่จำเป็น ดังนั้น ทุกคนจึงควรวางของร้อนไว้นอกตู้เย็นให้หายร้อน หรือให้เป็นอุณหภูมิห้องก่อน จึงค่อยนำไปใส่ตู้เย็น
3.ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดตู้เย็น
การไม่ค่อยทำความสะอาดตู้เย็น อาจทำให้ภายในตู้เย็นนั้นอาจจะมีของหมดอายุหรือของที่ไม่จำเป็นหลงเหลืออยู่ภายในตู้เย็น ทำให้ของเต็มตู้เย็น ไม่สะอาด และทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นได้ ดังนั้น ทุกคนจึงควรทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ เพื่อให้ตู้เย็นสามารถทำงานได้อย่างปกติ และมีอายุการใช้งานที่นานมากยิ่งขึ้น
4.น้ำแข็งเกาะตู้เย็น
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าการที่มีน้ำแข็งเกาะตู้เย็น แปลว่าตู้เย็นนั้นสามารถทำความเย็นได้ดี แต่รู้หรือไม่ว่าการที่น้ำแข็งเกาะตู้เย็นนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นเช่นกัน โดยน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นนั้นเกิดจากการที่เราเปิดตู้เย็นไว้เป็นเวลานาน ทำให้อากาศภายนอกเข้าไปกระทบกับความเย็นภายในตู้เย็น และส่งผลให้หยดน้ำตามผนัง หรือชั้นวางของภายในตู้เย็นนั่นเอง เมื่อน้ำแข็งเกาะตู้เย็นเป็นจำนวนมาก ก็จะไปขัดขวางการไหลเวียนของความเย็นภายในตู้เย็น และส่งผลให้ตู้เย็นควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดีเท่าที่ควร และไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างปกติ ดังนั้น ทุกคนจึงไม่ควรเปิดตู้เย็นทิ้งไว้เป็นเวลานาน และควรหมั่นละลายน้ำแข็งภายในตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ
5.เซนเซอร์อุณหภูมิตู้เย็นทำงานผิดปกติ
เซนเซอร์อุณหภูมิตู้เย็น มีหน้าที่คอยตรวจสอบว่าของในตู้เย็นมีอุณหภูมิที่คงที่เท่ากันหรือไม่ โดยเซนเซอร์เหล่านี้สามารถเกิดการเสียหายได้จากหลายสาเหตุ เช่น การกระแทกที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายตู้เย็น หรือการทุบน้ำแข็งออกจากตู้เย็น เป็นต้น และเมื่อเซนเซอร์นี้เกิดการเสียหาย ก็อาจทำให้เซนเซอร์อุณหภูมิตู้เย็นทำงานผิดปกติ หรืออาจทำให้ตู้เย็นตรวจสอบอุณหภูมิได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น ดังนั้น จึงควรระมัดระวังไม่ให้เซนเซอร์ได้รับความเสียหาย และหมั่นตรวจเช็กอยู่เสมอว่าทำงานปกติหรือไม่
6.คอมเพรสเซอร์เสีย
คอมเพรสเซอร์เสีย สามารถเสียได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไฟตก ไฟกระชาก หรือไฟดับบ่อยๆ เป็นต้น โดยเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น เพราะว่าคอมเพรสเซอร์นั้นจะทำการสร้างระบบหมุนเวียนอุณหภูมิในตู้เย็นให้เย็น และจะถ่ายเทความร้อนออกจากตู้เย็น เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้คงที่ ดังนั้น ถ้าหากคอมเพรสเซอร์เสีย ก็จะส่งผลให้ตู้เย็นทำงานไม่ปกติ หรือทำให้ตู้ไม่เย็นนั่นเอง
7.ขอบยางตู้เย็นเสื่อม
ขอบยางของตู้เย็น มีหน้าที่ช่วยให้ตู้เย็นนั้นปิดสนิท และช่วยรักษาอุณหภูมิของตู้เย็นให้คงที่ ดังนั้น ขอบยางตู้เย็นเสื่อม จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น เพราะว่าจะทำให้ตู้เย็นปิดได้ไม่สนิท และทำให้ความเย็นภายในตู้เย็นไหลออกจากตู้เย็น ซึ่งจะส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และเกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยทุกคนสามารถเช็กได้ด้วยตัวเองว่าขอบยางตู้เย็นที่บ้านนั้นเสื่อมสภาพหรือไม่ ด้วยการจับดูว่าขอบยางมีความแข็งกว่าปกติหรือเปล่า ถ้าหากมีความแข็งก็แสดงว่าขอบยางเสื่อมสภาพ และควรรีบเปลี่ยนให้เร็วที่สุด
8.ตั้งตู้เย็นติดผนังบ้าน
การทำงานของตู้เย็นนั้นจะต้องมีการถ่ายเทความร้อนออกจากตู้เย็น ถ้าหากตั้งตู้เย็นติดผนังจนเกินไป ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นได้ เพราะว่าตู้เย็นมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะถ่ายเทความร้อนออกไป และทำให้อุณหภูมิของตัวตู้เย็นเองนั้นร้อนเกินไป นอกจากจะทำให้ตู้เย็นไม่เย็นแล้ว ยังสามารถทำให้ตู้เย็นได้รับความเสียได้อีกด้วย ดังนั้น ทุกคนจึงควรวางตู้เย็นให้ห่างจากผนังประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือห่างจากพื้นที่โดยรอบเล็กน้อย เพื่อให้ตู้เย็นถ่ายเทความร้อนได้ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9.คอยล์เย็นเสีย
คอยล์เย็นเสีย เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น โดยคอยล์เย็นนั้นจะอยู่ที่ด้านหลังของตู้เย็น และมีหน้าที่ในการสร้างความเย็นภายในตู้เย็น พร้อมกับระบายความร้อนออกจากตู้เย็น ถ้าหากคอยล์เย็นเสียก็จะไม่สามารถสร้างความเย็น และระบายความร้อนออกไปได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ตู้เย็นทำงานไม่ปกติ หรือตู้เย็นไม่เย็นได้ ดังนั้น ทุกคนจึงควรทำความสะอาดคอยล์เย็นด้วยการถอดปลั๊กตู้เย็น และใช้แปรงปัดฝุ่นในการทำความสะอาดประมาณเดือนละครั้ง หรือ 2-3 เดือนต่อครั้งก็ได้เช่นกัน เพื่อลดการสะสมของฝุ่นที่คอยล์เย็น แถมยังช่วยให้ตู้เย็นสามารถใช้งานได้ปกติ และมีอายุการใช้งานนานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
10.เปิดประตูตู้เย็นบ่อยๆ หรือเปิดทิ้งไว้
การเปิดประตูตู้เย็นบ่อยๆ หรือเปิดทิ้งไว้ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นเช่นกัน เพราะว่าทุกครั้งที่เปิดประตูตู้เย็นนั้นจะทำให้อากาศภายในตู้เย็นไหลออกมา และทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้คงที่ ดังนั้น การเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ หรือการเปิดประตูทิ้งไว้ จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักโดยไม่จำเป็น และจะทำให้อายุการใช้งานของตู้เย็นสั้นลง ซึ่งสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการหยิบของจากตู้เย็นเป็นเวลา หรือหยิบของที่ต้องการใช้ออกมาทีเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องเปิดซ้ำๆ กันหลายครั้งนั่นเอง
ปัญหาตู้เย็นไม่เย็นจะหมดไปด้วยวิธีซ่อมแซมแบบง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง
หลังจากเรารู้แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นมีอะไรบ้าง ต่อไปเราจะไปดูวิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นแบบเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นช่างจริง หรือช่างมือสมัครเล่นก็สามารถซ่อมแซมได้ โดยวิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นแบบง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองนั้นมีทั้งหมด ดังนี้
- การละลายน้ำแข็งในตู้เย็นรุ่นใหม่ ภายในตู้เย็นรุ่นใหม่นั้นจะมีโหมดละลายน้ำแข็งโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดโหมดดังกล่าว และรอจนน้ำแข็งละลาย จึงค่อยเปลี่ยนกลับไปเป็นโหมดปกติ เพียงเท่านี้ก็สามารถละลายน้ำแข็งในตู้เย็นได้แล้ว
- การละลายน้ำแข็งในตู้เย็นรุ่นเก่า ภายในตู้เย็นรุ่นเก่านั้นจะไม่มีโหมดละลายน้ำแข็ง ดังนั้น เราจะต้องทำการถอดปลั๊กตู้เย็น เพื่อให้น้ำแข็งละลายเอง และไม่ควรทุบน้ำแข็งที่อยู่ภายในตู้เย็นให้หลุดออกมา เพราะอาจจะทำให้ตู้เย็นเกิดความเสียหายได้ แต่ก่อนจะถอดปลั๊กนั้นควรนำของออกจากตู้เย็นเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแข็งที่ละลายแล้วทำให้ของที่แช่อยู่เสียหาย
- ตรวจสอบขอบยางตู้เย็น หากพบว่าตู้เย็นปิดไม่สนิท หรือมีช่องว่างระหว่างประตูตู้เย็น ให้การตรวจสอบขอบยางตู้เย็นทันที ด้วยการใช้มือบีบขอบยาง ถ้าขอบยางนิ่ม แสดงว่ายังสามารถใช้งานได้ แต่ถ้าขอบยางแข็งให้ทำการเปลี่ยนอันใหม่ให้เร็วที่สุด
- เลือกขอบยางตู้เย็นให้ดี ก่อนจะเปลี่ยนขอบยางตู้เย็นนั้นจะต้องตรวจสอบขนาด และไซส์ของของยางตู้เย็นให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้เลือกซื้อขอบยางใหม่ให้ตรงกับของเดิม
- ขอบยางที่ซื้อใหม่ไม่นิ่ม ขอบยางตู้เย็นที่เพิ่งซื้อมาใหม่นั้นมักจะแข็ง ซึ่งไม่สามารถดัด และยึดไปตามแนวขอบตู้เย็นที่ต้องการติดได้ แต่สามารถแก้ได้ด้วยการนำขอบยางไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 นาที ก็จะทำให้ยางอ่อนตัว และยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถดัดไปตามแนวของขอบตู้เย็นได้
- ถอดขอบยาง สำหรับวิธีการถอดขอบยางตู้เย็นนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คลายนอตที่ทำการยึดขอบยางตู้เย็นออก และค่อยดึงขอบยางเก่าออกจากประตูตู้เย็น โดยเริ่มดึงจากมุมประตูฝั่งที่เปิดด้านบนออก หลังจากนั้นด้านข้างๆ และด้านอื่นๆ ก็จะหลุดออกมาเอง
- ใส่ขอบยางอันใหม่ การใส่ขอบยางตู้เย็นอันใหม่นั้นง่ายมาก เพียงแค่ใส่ไปตามรอยเดิม โดยเริ่มจากการติดขอบยางที่มุมประตูด้านบนก่อน หลังจากนั้นใส่นอตลงไปตามรูที่ถอดออกมาให้เหมือนเดิมทุกจุด และเมื่อทำเสร็จแล้วให้ทดลองเปิด-ปิดประตู เพื่อตรวจสอบดูว่าแนบสนิททุกจุดหรือไม่ และยังมีช่องว่างระหว่างประตูตู้เย็นหรือเปล่า ถ้าหากไม่มีก็แสดงว่าเปลี่ยนขอบยางตู้เย็นสำเร็จแล้ว
วิธีการดูแลรักษาตู้เย็นให้ดูใหม่ น่าใช้งานตลอดเวลา
หลังจากรู้ถึงสาเหตุ และวิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นกันไปแล้ว เราจะไปดูวิธีการดูแลรักษาตู้เย็นให้ดูเหมือนใหม่ เพื่อให้น่าใช้งานตลอดเวลา และมีอายุการใช้งานนานมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการดูแลรักษาตู้เย็นแบบง่ายๆ นั้นมีทั้งหมด ดังนี้
- จัดระเบียบตู้เย็น เป็นวิธีการดูแลรักษาตู้เย็นที่ทุกคนควรทำเป็นประจำ เพียงแค่จัดข้าวของภายในตู้เย็นให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เช่น แยกของสดให้ห่างจากของอื่นๆ หรือแยกผัก และผลไม้ไว้ในช่องสำหรับเก็บผัก เป็นต้น
- แบ่งช่องจัดวางของ เป็นวิธีที่จะช่วยให้จัดระเบียบตู้เย็นได้ง่ายขึ้น เช่น เครื่องดื่มต่างๆ จะแช่ไว้ในด้านข้างประตู ส่วนผัก และผลไม้จะเก็บไว้ด้านล่างสุด และของสดจะเก็บไว้ในช่องฟรีซ หรือช่องสำหรับเก็บของสด เป็นต้น โดยวิธีนี้จะช่วยให้ตู้เย็นมีระเบียบ สะอาด และสามารถหาของได้ง่ายยิ่งขึ้น
- เก็บของสดให้มิดชิด เป็นวิธีที่จะช่วยให้ของภายในตู้เย็นนั้นไม่มีกลิ่นจากของสด หรือมีของเหลวจากของสดไหลออกมาเลอะเทอะตู้เย็น เพียงแค่เก็บของสดไว้ในกล่อง หรือถุงซิป ก็จะช่วยให้ตู้เย็นสะอาด ไร้กลิ่น และไม่เป็นคราบเลอะเทอะด้วย
- ระวังกลิ่นจากของสด ถ้าหากไม่เก็บของสดให้มิดชิด หรือทิ้งไว้จนเสีย อาจทำให้ภายในตู้เย็นมีกลิ่น โดยกลิ่นจากของสดนั้นจะติดตู้เย็นได้ง่าย และสามารถกำจัดกลิ่นได้ยาก ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการเก็บของสด และไม่ควรปล่อยให้เน่าเสียภายในตู้เย็น
- ทำความสะอาดเป็นประจำ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ตู้เย็นน่าใช้งาน และดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา เพียงแค่ใช้ผ้าสะอาด หรือผ้าชุบน้ำบิดหมาด เช็ดตามผนัง หรือซอกมุมต่างๆ ภายในตู้เย็น ก็จะช่วยให้ตู้เย็นดูสะอาด และไม่ทิ้งคราบฝังลึกไว้
- ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม เป็นการปรับอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้ของภายในตู้เย็นนั้นอยู่ในอุณหภูมิที่คงที่ ไม่เน่าเสียง่าย และไม่เย็นจนเกินไปจนทำให้ของภายในตู้เย็นเป็นน้ำแข็ง แถมตู้เย็นยังไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปอีกด้วย
ถึงแม้ว่าปัญหาตู้เย็นไม่เย็นนั้นจะสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ของเยอะเกินไป ไม่ค่อยทำความสะอาด เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ หรือการวางตู้เย็นไม่ดี ล้วนแต่เป็นสาเหตุตู้เย็นไม่เย็นที่เกิดจากการใช้งานของตัวเราเอง ดังนั้น ทุกคนจึงควรดูแลรักษา และใช้งานให้เหมาะสม เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นให้นานมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากเกิดปัญหาไปแล้ว ก็สามารถซ่อมได้ง่ายๆ ด้วยวิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นที่ได้นำมาฝากในบทความนี้ และถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยเรื่องบ้านที่จะทำให้เรื่องบ้านเป็นเรื่องง่าย แอปพลิเคชัน SMART WORLD ที่จะช่วยทำให้ทุกเรื่องบ้านของทุกคน จบได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว