“ฝุ่น” เป็นปัญหาหลักของคนรักบ้าน เพราะฝุ่นเป็นสิ่งสกปรกที่ลอยอยู่ในอากาศ หรือติดตามเสื้อผ้า และมาเกาะตามบริเวณเฟอร์นิเจอร์ ที่นอน หรือแม้แต่ผ้าม่าน เมื่อฝุ่นสะสมอยู่ในห้องนอนเป็นระยะเวลานาน ก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต ดังนั้นมาลองดูวิธีการกำจัดฝุ่นในบ้านแบบยั่งยืนกันดีกว่า!
รู้แหล่งสะสมฝุ่นในห้องนอน ก่อนจัดการให้ถูกวิธี
ก่อนที่จะรู้วิธีแก้ ต้องรู้แหล่งที่มาก่อน! ปัญหาฝุ่น เป็นปัญหาที่พบได้ทุกบริเวณภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว, ห้องเก็บของ หรือแม้แต่ห้องนอนที่ทุกคนใช้ในการพักผ่อน ดังนั้นมาเจาะลึกที่ห้องนอนกันดูว่าบริเวณส่วนใดของห้องนอนที่เป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี?
เครื่องนอน
ทุกๆ คืนคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาพักผ่อนบนเตียง ซึ่งเมื่อใช้งานไปนานๆ มักพบเห็นเศษฝุ่นบริเวณเครื่องนอนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าปูที่นอน พื้นใต้เตียงนอน หรือแม้แต่ผ้าห่ม ก็เป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นเยี่ยม เนื่องจากในแต่ละวันที่ทุกๆ คนห่มผ้า พักผ่อนตามสะดวกนั้น จะมีการพลิกตัวไปมา และมีเศษผิวหนังหลุดติดไว้บนเครื่องนอน ซึ่งเป็นอาหารของไรฝุ่นอีกด้วย
โซฟา
โซฟา อีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ยอดฮิตที่ฝุ่นรัก โดยเฉพาะโซฟาที่ทำจากผ้า เพราะว่าฝุ่นนั้นจะลอยอยู่ตามอากาศแล้วไปเกาะรวมๆ กันในบริเวณที่เป็นจุดอมฝุ่น ซึ่งโซฟามักถูกออกแบบให้มีซอกเล็กๆ ที่ยากต่อการทำความสะอาดอยู่เยอะมาก จึงทำให้โซฟากลายเป็นแหล่งอาศัยของฝุ่นและตัวไรฝุ่นอีกด้วย
ตุ๊กตา
ตุ๊กตามักทำจากนุ่น เพื่อให้ตุ๊กตามีความนุ่มนิ่ม น่าทะนุถนอม แต่จริงๆ แล้วนั้นตุ๊กตาเป็นแหล่งที่พักชั้นดีของพวกไรฝุ่น เนื่องจากตัวไรฝุ่นสามารถเกาะบนขนของตุ๊กตาจนไปถึงในเสื้อผ้าที่ตุ๊กตาสวมอยู่ก็เป็นได้ จึงต้องนำตุ๊กตาไปซักทำความสะอาดอยู่เสมอ
ผ้าม่านและพรมปูพื้น
ผ้าม่านและพรมปูพื้นก็มองข้ามไม่ได้ เพราะผ้าม่านและพรมมักทำมาจากผ้าที่มีความหนาค่อนข้างสูง ทำให้ฝุ่นละอองเข้าไปติดอยู่ และอีกหนึ่งจุดที่ต้องระวังคือ บริเวณขอบหน้าต่าง เนื่องจากตัวขอบหน้าต่างสามารถเปิด-ปิดได้ จึงทำให้ฝุ่นเข้ามาสะสมได้เช่นกัน จึงควรทำความสะอาดผ้าม่าน พรมปูพื้นและขอบหน้าต่างอยู่เสมอ
หนังสือ
ไรฝุ่น รวมถึงฝุ่นยังสามารถเกาะเนื้อกระดาษได้ดี ทำให้หนังสือ กลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น สำหรับหนอนหนังสือต้องระวังให้ดี เพราะฝุ่นมักจะไปจับตัวอยู่บริเวณสันหนังสือ ขอบหนังสือ หรือแม้แต่ใยกระดาษที่หลุดออกมาจากหนังสือ ก็จะกลายเป็นฝุ่นได้อีก
เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลม
เมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมไปเรื่อยๆ จะเห็นว่ามีฝุ่นมาเกาะบริเวณใบพัด หรือเวลาพัดลมพัดแล้วจะรู้สึกว่ามีฝุ่นออกมาด้วยตลอด เป็นเพราะว่ามีฝุ่นเกาะจำนวนมาก ยิ่งเปิดใช้งานต่อไปจะทำให้ฝุ่นกระจายไปทั่วห้องได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเมื่อพบเห็นฝุ่นแล้ว ควรรีบทำความสะอาดทันที เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน
แชร์เคล็ดลับวิธีกำจัดฝุ่นในห้องนอนให้สะอาดเรียบ
ห้องนอนถือเป็นห้องสำคัญของบ้านที่ผู้พักอาศัยจะต้องใช้พักผ่อน หลับนอน หรือแม้แต่นั่งเล่น ซึ่งก็กินเวลาอย่างน้อย 5-8 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นยิ่งต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดให้ดี หากห้องนอนมีฝุ่นมาก ก็จะเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นมาลองดูเคล็ดลับวิธีกำจัดฝุ่นในห้องนอนให้สะอาด กันดีกว่า
ทำความสะอาดห้องทุกวัน
ทำความสะอาดห้องทุกวัน ถือว่าดี! เมื่อพบฝุ่นละอองเล็กน้อย แล้วปล่อยไว้เรื่อยๆ ฝุ่นและเชื้อโรคก็จะยิ่งก่อตัว รวมถึงสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ควรกวาดห้องนอน หรือนำผ้ามาเช็ดทำความสะอาดในจุดที่มีฝุ่นมากๆ หรือตามบริเวณหัวเตียง ซอกเตียง เพราะจุดเหล่านี้มักเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น
เลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์กำจัดฝุ่น
อีกหนึ่งเคล็ดลับวิธีกำจัดฝุ่นในห้องนอนที่ควรรู้! คือ การใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อกำจัดฝุ่น เนื่องจากผ้าไมโครไฟเบอร์ เป็นผ้าเส้นใยสังเคราะห์ที่ใช้เส้นใย 2 ประเภท คือ โพลีเอสเตอร์ (Polyester) และโพลีเอไมด์ (Polyamide) มาทำ ซี่งมีคุณสมบัติในการดูดซับ กักเก็บฝุ่นได้ดี อีกทั้งยังช่วยเก็บคราบสกปรก คราบมันบนพื้นผิว โดนไม่ทิ้งคราบอื่นๆ ไว้ ทำให้ผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติในการเก็บฝุ่นได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ จึงเหมาะกับการใช้ทำความสะอาด
เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกๆ สัปดาห์
เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก อีกทั้งป้องกันอันตรายจากฝุ่นและไรฝุ่น ซึ่งตัวไรฝุ่นนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิของประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนถึงหน้าหนาว มักพบตัวไรฝุ่นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ไรฝุ่นมักอยู่อาศัยตามจุดที่คนเราใช้เวลาคลุกคลีอยู่เป็นเวลานาน เช่น เตียงนอน โซฟา เนื่องจากพวกมันจะคอยรอกินอาหาร ซึ่งก็คือ เศษผิวหนังของมนุษย์ ที่เวลาคนเราขยับตัว ก็จะมีเศษเซลล์ผิวหนังที่ผลัดออกมาตกหล่นอยู่นั่นเอง
ลดของใช้ที่ไม่จำเป็น เก็บเข้ากล่องให้เรียบร้อย
พยายามลดของใช้ที่ไม่จำเป็น เก็บเข้ากล่องให้เรียบร้อยให้ได้มากที่สุด เนื่องจากการวางสิ่งของไว้เต็มห้อง ยิ่งเป็นการเพิ่มแหล่งที่อยู่ของฝุ่น ฝุ่นจะเกาะไปที่ตัวอุปกรณ์ หรือสิ่งของที่วางไว้ ถือเป็นการเพิ่มปริมาณฝุ่นในบ้านเลยก็ว่าได้ จึงควรเก็บของที่ไม่จำเป็น พยายามทำให้ห้องนอนดูโล่ง ดูสบายตาให้ได้มากที่สุด จะช่วยลดปัญหาฝุ่นได้มากขึ้น
วางพรมเช็ดเท้าไว้ทุกห้อง
พรมเช็ดเท้าจะคอยดักจับฝุ่นที่อยู่ปลายเท้า เวลาเดินเข้าหรือเดินออก โดยเฉพาะบริเวณประตูหน้าบ้าน ควรมีการวางพรมเช็ดเท้าก่อนเดินเข้าในตัวบ้าน เนื่องจากตอนที่ถอดรองเท้าออก เท้าก็จะยังมีเศษฝุ่นที่ติดกับรองเท้า หรือตามพื้นนอกบ้าน การเหยียบพรมเช็ดเท้าจะช่วยลดปริมาณฝุ่นที่เข้าสู่ในตัวบ้าน แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าฝุ่นนั้นจะไม่ได้หายออกไปไหน จะยังสะสมอยู่ที่พรมเช็ดเท้า จึงควรนำพรมเช็ดเท้าไปทำความสะอาดบ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เก็บฝุ่น
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เก็บฝุ่น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งที่ทำจากผ้า ขนสัตว์ นุ่น ให้ได้มากที่สุด ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนัง หรือพลาสติกเข้ามาแทน เช่น จากเดิมที่ใช้โซฟาผ้า ให้ลองเปลี่ยนเป็นโซฟาที่ทำจากหนัง ก็จะสามารถลดปริมาณฝุ่นไปได้เยอะเลยทีเดียว นอกจากรู้วิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์แล้วนั้น ควรเลือกผ้าปูที่นอนที่กันไรฝุ่นที่ผ่านการทอแบบหนาแน่น และหมั่นทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ก็จะสามารถป้องกันไรฝุ่นได้อย่างดี
เครื่องพ่นไอน้ำ
เครื่องพ่นไอน้ำเป็นอีกหนึ่งในวิธีกำจัดฝุ่นในบ้านได้ด้วย ซึ่งเครื่องพ่นไอน้ำก็คือ เครื่องที่ปล่อยกลิ่นหอมสดชื่น ออกมาให้กับบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วการใช้เครื่องพ่นไอน้ำยังสามารถช่วยลดฝุ่นได้ด้วย โดยไอน้ำขนาดเล็กที่ถูกพ่นออกมาจากตัวเครื่องจะช่วยลดฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ และลดโอกาสการสูดดมฝุ่นเข้าร่างกายอีกด้วย
ใช้โรบอทเพื่อทุ่นแรง
ในยุคปัจจุบันมีหุ่นยนต์เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกมนุษย์อยู่หลายด้าน ทั้งเครื่องดูดฝุ่น เครื่องถูพื้น เครื่องล้างจาน จนนำไปสู่การประดิษฐ์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะที่พร้อมดูแลเรื่องของฝุ่น ทำให้ปัญหาฝุ่นภายในบ้านเป็นเรื่องเล็กไปเลย ขอแนะนำให้เลือกซื้อหุ่นยนต์อัจฉริยะที่มียี่ห้อ ผ่านมาตรฐานและสามารถกำจัดฝุ่นได้ดี เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดของ Neato รุ่น Neato D9 Intelligent Robot Vacuum Connected หรือ หุ่นยนต์ทำความสะอาดของ Roborock S7 MaxV Ultra ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้านไปได้มาก
ฝุ่นนั้นอันตรายอย่างไร ทำไมต้องกำจัดให้หมดไป
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าฝุ่นมาจากไหนและเกิดจากอะไร? ฝุ่นมีที่มาหลายสาเหตุ ได้แก่ ฝุ่นที่มาเกาะจากเสื้อผ้าหรือตามร่างกาย ฝุ่นสะสมบริเวณเครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้มีการทำความสะอาด เมื่อสูดดมไรฝุ่นไปนานๆ จะทำให้มีอาการคล้ายกับโรคภูมิแพ้ เช่น มีอาการจาม มีน้ำมูก มีผื่นขึ้นบริเวณลำตัว หายใจหอบเหนื่อย ใต้ตาบวมช้ำ มีน้ำตาไหล ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจทั้งสิ้น หากปล่อยให้ฝุ่นตัวร้ายอยู่ภายในบ้านไปนานๆ ก็อาจส่งผลจากโรคภูมิแพ้ ไปสู่โรคจมูกอักเสบก็เป็นได้ จึงควรรีบกำจัดฝุ่นและไรฝุ่นให้ได้เร็วที่สุด
พฤติกรรมควรหลีกเลี่ยงในการกำจัดฝุ่นในบ้าน
หลายๆ คนอาจเคยคิดว่าการสะบัดผ้านั้นช่วยลดฝุ่น หรือการใ้ช้น้ำยาทำความสะอาดช่วยให้ฝุ่นหายแถมยังปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจเป็นอันตรายมากกว่าเดิม! มาดูพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ที่ทุกคนอาจเข้าใจว่าเป็นวิธีการกำจัดฝุ่นในบ้านแบบถูกต้องมาก่อน
- หลีกเลี่ยงการใช้พรม, ผ้าม่าน หรือผ้าเช็ดเท้าที่อมฝุ่นสูง เพราะจะเป็นแหล่งรวมฝุ่น
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการสะบัดผ้า หรือสะบัดหมอน ตีหมอนเพื่อปัดฝุ่น เพราะจะทำให้ฝุ่นนั้น ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ หรือใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง โดยส่วนมากน้ำยาทำความสะอาดจะมีฤทธิ์เป็นกรด สามารถกัดกร่อน ชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปได้ ซึ่งการใช้น้ำยาทำความสะอาดบ่อยๆ อาจทำให้สิ่งของภายในบ้านเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้
- ให้เก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ รวมถึงเก็บอุปกรณ์ประกอบอาหารไว้ให้มิดชิด เนื่องจากไรฝุ่นไม่ได้อยู่แค่บริเวณเตียงนอนเท่านั้น ยังสามารถอยู่ในอาหารได้อีกด้วย แม้ว่าจะนำอาหารไปปรุงรสแล้ว แต่สารในตัวไรฝุ่นที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้นั้นจะยังคงอยู่ หากผู้ที่มีอาการแพ้ไรฝุ่นอย่างรุนแรงเผลอรับประทานเข้าไป อาจเกิดอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้
จะเห็นได้ว่า “ฝุ่น” เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน ถือเป็นภัยที่ไม่ควรมองข้าม จึงควรหาวิธีกำจัดฝุ่นในบ้าน และวิธีกำจัดฝุ่นในห้องนอนเพื่อกำจัดภัยร้ายเหล่านี้ อีกทั้งในบริเวณที่มีฝุ่นสะสม ก็อาจมีตัวไรฝุ่นคอยอาศัยอยู่ด้วย จึงควรหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่เป็นจุดสะสมฝุ่น หรือตามซอกในบ้านที่เข้าถึงยาก โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งหมั่นล้างข้าวของเครื่องใช้ เปลี่ยนเครื่องนอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกภายในบ้านที่คุณรักนั่นเอง