เป็นธรรมดาที่เมื่อเจอเสื้อผ้าถูกใจ ก็อยากจะซื้อเอาไว้เผื่อมีโอกาสใส่ไปไหนมาไหน แต่บ่อยครั้งที่ช็อปปิงเสื้อผ้ามาเยอะจนเกินไป รู้สึกตัวอีกทีก็ล้นเต็มตู้ไปเสียแล้ว!
แต่แค่เสื้อผ้าล้นตู้ยังไม่พอ หลายๆ คนยังต้องเจอกับปัญหาเสื้อผ้าทับกันจนยับ หาชุดที่อยากจะใส่ไม่เจอ ฯลฯ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกสักทีว่าจะจัดตู้เสื้อผ้าอย่างไรดีให้ดูเป็นระเบียบ รื้อมาแล้วจัดใหม่ แต่การจัดวางในรูปแบบเดิม ปัญหาเดิมก็เกิดขึ้นอีก
เพราะฉะนั้น บทความนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับจัดระเบียบตู้เสื้อผ้า ให้ภายในตู้ของคุณนั้นเป็นระเบียบ จัดการง่าย หาชุดไม่ยาก ไม่ต้องเจอปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้อีกต่อไป
จัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ ดีอย่างไร?
ในตู้เสื้อผ้ามีทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ไม้แขวน และเสื้อผ้าที่พับไว้ บ้างก็มีลิ้นชักแยกโซน มีกล่องอเนกประสงค์ แยกประเภทเรียบร้อย ในตู้เสื้อผ้าไม่ได้มีแค่เสื้อ กระโปรง หรือกางเกงเท่านั้น แต่ยังมีถุงเท้า ผ้าพันคอ กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งการจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบจะช่วยลดความปวดหัวอันเกิดจากเสื้อผ้าล้นตู้ได้ จะเลือกใช้ตัวไหนก็สามารถหยิบมาใช้ได้สะดวก ที่สำคัญ เป็นการประหยัดเวลาที่ต้องเสียไป เพื่อการแต่งตัวอีกด้วย
แก้ปัญหาผ้าล้นตู้ ด้วยวิธีจัดตู้เสื้อผ้าแบบง่าย ๆ
ปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้นับเป็นปัญหาน่าปวดหัวของใครหลายคน แต่วันนี้หมดกังวลกับปัญหานี้ได้เลย! ด้วยวิธีจัดตู้เสื้อผ้าแบบง่ายๆ เป็นขั้นเป็นตอน ดังนี้
● คัดแยกเสื้อผ้าที่ใส่ และไม่ใส่
ก่อนจะคัดแยกได้ ต้องเห็นภาพรวมก่อนด้วยการนำเสื้อผ้า และทุกๆ อย่างออกมาให้หมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ หรือพับอยู่ อยู่ในกล่อง หรือในลิ้นชัก เหลือไว้แค่ตู้โล่งๆ
จากนั้นจึงทำการคัดแยกเสื้อผ้าระหว่าง ตัวไหนที่ยังใส่อยู่ และ ตัวที่ไม่ใส่แล้ว ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยลดจำนวนเสื้อผ้าที่มีอยู่ภายในตู้ลงได้ อีกทั้งยังอาจพบเสื้อใหม่ๆ ที่ซื้อมาแต่ยังไม่เคยได้ใส่ จนลืมไปแล้วว่ามีก็เป็นได้
สำหรับเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้วนั้นคุณอาจนำไปทิ้ง หรือบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ก็ได้ นอกจากจะเป็นการเคลียร์ตู้เสื้อผ้าแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีกด้วย
● นำเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้วไปบริจาค
ข้อดีของการที่นำเอาเสื้อผ้า และของใช้ทั้งหมดออกมาทำให้เราคัดแยกได้ง่ายขึ้นว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนยังใส่อยู่ หรือไม่ใส่แล้ว บางครั้งเราอาจพบว่าเสื้อผ้าบางชุดแม้จะเป็นชุดโปรด ได้ใส่แค่ 1 – 2 ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่มีโอกาสได้ใส่ เวลาผ่านไป ชุดก็ดูโทรมเกินกว่าที่จะคว้ามาใส่อีก หรือบางครั้งชุดใหม่ที่ซื้อมา พอมาใส่จริงอาจดูไม่เหมาะกับโอกาสที่จะใส่ รวมถึงชุดที่ซื้อมาใหม่ แล้วถูกเก็บไว้ในตู้ สุดท้ายลืมใส่ สีสันก็ซีดลง ไม่เหมาะกับการสวมใส่แล้ว เหล่านี้สามารถตัดใจเคลียร์ไปได้เลยหรือจะนำไปบริจาคให้ผู้อื่นต่อก็ได้เช่นกัน
● แบ่งหมวดหมู่ของเสื้อผ้า
การแบ่งหมวดหมู่จะทำให้สามารถจัดระเบียบของเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การหาชุดมาใส่นั้นไม่วุ่นวายอีกต่อไป โดยเราขอแนะนำให้แบ่งเสื้อผ้าออกเป็นแต่ละประเภทคร่าวๆ ดังนี้
- เสื้อยืด
- เสื้อเชิ้ต
- กางเกงขาสั้น
- กางเกงขายาว
- เดรส
- เสื้อกันหนาว
- ชุดชั้นใน
- ถุงเท้า
โดยคุณอาจแบ่งหมวดหมู่เพิ่มเติมตามสไตล์เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ หรือสามารถแบ่งเรียงตามโทนสีของเสื้อผ้าได้อีกด้วย ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะทำให้เวลาที่หยิบมาใช้งานก็จะง่ายแสนง่าย ที่สำคัญ ยังดูเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย
● จัดระเบียบเสื้อผ้าให้เหมาะกับตู้
ลำดับแรก เริ่มจากการเลือกเสื้อผ้าที่ยับได้ง่าย และควรต้องใส่ไม้แขวนให้เป็นระเบียบ เช่น เสื้อกันหนาวหรือเสื้อผ้าหนาๆ เสื้อสูท เสื้อทำงานแขนยาว-แขนสั้น เสื้อแขนกุด เดรส ฯลฯ โดยแนะนำให้แขวนและจัดการให้เป็นระเบียบ และไม่เบียดเสียดกับชุดอื่นๆ มากจนเกินไป
ลำดับถัดมา แนะนำให้เลือกเสื้อผ้าที่ใส่บ่อยๆ มาใส่ไม้แขวนไว้เพื่อให้หยิบออกมาใช้ได้ง่าย โดยเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่บ่อยๆ นั้นอาจเลือกพับเก็บเอาไว้ รวมไปถึงชุดชั้นในและถุงเท้าที่เราแนะนำให้เก็บไว้ในลิ้นชักเช่นเดียวกัน
● ใช้อุปกรณ์เสริมในการจัดตู้เสื้อผ้า
ในตู้เสื้อผ้านอกจากจะมีส่วนที่เอาไว้แขวนเสื้อผ้าแล้ว สำรวจดีๆ จะยังมีพื้นที่อื่นที่เหลืออยู่เอาไว้สำหรับเก็บผ้าที่พับเก็บ อาทิ ชุดอยู่บ้าน ชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลัง ชุดชั้นใน ฯลฯ ในส่วนนี้สามารถใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับจัดการกับพื้นที่ในตู้เสื้อผ้า เพื่อเพิ่มความเป็นระเบียบในการจัดตู้เสื้อผ้าได้
ไม่ว่าจะเป็นกล่องจัดเก็บหรือกล่องลิ้นชักมาวางเรียงซ้อนกัน กล่องอเนกประสงค์ หรือตะขอแขวนที่แยกเป็นชั้นๆ นิยมใช้เก็บเสื้อชั้นใน แบบนี้ก็ช่วยให้ตู้เสื้อผ้าดูมีระเบียบขึ้นอีกมาก
จัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์เสริม
เพราะในตู้เสื้อผ้า ไม่ได้มีแค่เสื้อ กางเกง กระโปรง หรือชุดเดรส เท่านั้น แต่ยังมีข้าวของเครื่องใช้กระจุกกระจิกอีกมากมาย ซึ่งการจะจัดตู้เสื้อผ้าให้มีระเบียบ ดูสะอาดตา และหยิบใช้ได้ง่ายนั้น การมีตัวช่วยดีๆ อย่างอุปกรณ์เสริมสำหรับตู้เสื้อผ้าจึงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณได้มาก
● กล่องอเนกประสงค์
อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การจัดตู้เสื้อผ้านั้นดูเป็นระเบียบมากขึ้น สำหรับกล่องอเนกประสงค์นี้มีทั้งแบบที่มีฝาปิด สามารถใช้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ แต่ยังใส่ได้อยู่ เช่น เสื้อกันหนาว เป็นต้น การปิดฝาให้เรียบร้อยจะช่วยป้องกันฝุ่นได้ และแบบที่ไม่มีฝาปิด ลักษณะส่วนใหญ่จะคล้ายลิ้นชัก แต่สามารถหยิบใช้ได้สะดวกกว่า เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่ใช้งานบ่อยๆ ที่สำคัญ การใช้กล่องอเนกประสงค์จะทำให้ในตู้เสื้อผ้าเป็นสัดเป็นส่วน และดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
● กล่องจัดระเบียบ
อุปกรณ์เสริมชนิดนี้ มีทั้งแบบที่มีฝาปิด และไม่มีฝาปิดเช่นกัน วัสดุที่นำมาใช้มีทั้งแบบที่เป็นกระดาษแข็งหุ้มด้วยผ้า และแบบที่เป็นพลาสติก ด้านในกล่องมีทั้งแบบที่แบ่งเป็นช่อง ตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป และแบบที่ไม่แบ่งช่อง แต่ปัจจุบันส่วนของแกนที่แบ่งช่องสามารถใส่เข้าไปและสามารถถอดออกได้ เพื่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับการใช้งาน ซึ่งในแบบที่แบ่งเป็นหลายๆ ช่องนั้น สามารถใช้เก็บถุงเท้า ชุดชั้นใน และเนคไทได้
● ลิ้นชัก
อีกหนึ่งรูปแบบของอุปกรณ์เสริมที่สามารถเป็นตัวช่วยเรื่องการจัดตู้เสื้อผ้าได้ดีอีกตัวหนึ่ง นั่นคือ ลิ้นชัก ลักษณะของลิ้นชักจะมีหลายรูปแบบ มีทั้งที่เป็นบิ้วท์อิน และแบบที่เป็นพลาสติกต่อกันขึ้นไปก็ได้ โดยมากลิ้นชักในแบบหลังจะไม่มีฝาปิด เสื้อผ้าที่เก็บในส่วนนี้ แนะนำว่าประเภทของเสื้อผ้าที่จัดเก็บในส่วนนี้ควรเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ อาทิ ถุงเท้า ชุดชั้นใน ผ้าพันคอ ผ้าเช็ดหน้า เสื้อกล้าม และเครื่องประดับ จะเหมาะที่สุด
● ไม้แขวนเสื้อหลายชั้น
ไม้แขวนเสื้อหลายชั้น มีทั้งแบบที่เป็นไม้แขวนโดยมากทำจากพลาสติก เอาไว้สำหรับแขวนกางเกงทำงาน และอีกแบบคือ แบบที่เป็นผ้าและเย็บด้วยผ้าตาข่ายอีกชั้นหนึ่ง แบบหลังนี้จะนิยมนำไปใช้จัดระเบียบกับเสื้อชั้นใน เพื่อการรักษาทรงของเสื้อชั้นให้สวมใส่ได้นานๆ มีหลายช่องหลายชั้นเช่นกัน
● ตะขอแขวน
กรณีที่ในตู้เสื้อผ้ายังพอมีพื้นที่เหลือ สามารถใช้ตะขอแขวนมาแขวน อาจใช้แขวนผ้าพันคอ กระเป๋าถือขนาดย่อมไปจนถึงขนาดเล็ก หรือจะใช้แขวนเสื้อผ้าที่เตรียมไว้สำหรับใส่ในวันถัดไป เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเสื้อผ้าได้อีกทางหนึ่ง
เคล็ดลับจัดตู้เสื้อผ้า แบบมาริเอะ คนโดะ
ขอแนะนำให้รู้จักกับ “มาริเอะ คนโดะ” สาวญี่ปุ่นที่รักการจัดระเบียบบ้านเป็นชีวิตจิตใจ โดยเธอได้เป็นที่รู้จักผ่านซีรีส์ที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบบ้าน โดยมีเธอเป็นนักแสดงนำในซีรีส์ที่มีชื่อว่า “Tidying Up with Marie Kondo” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างบ้นหลามไปทั่วโลก และทำให้ผู้คนหันมาสนใจการจัดบ้านยิ่งขึ้น
สไตล์จัดบ้านในแบบฉบับของมาริเอะ คนโดะ ไม่เพียงแค่การจัดระเบียบตามห้องต่างๆ ในบ้านเท่านั้น แต่ยังมีเคล็ดลับดีๆ ในส่วนของการจัดตู้เสื้อผ้าให้ดูเป็นระเบียบและหยิบใช้ง่ายอีกด้วย ซึ่งเธอได้เขียนไว้ในหนังสือ “The Life-Changing Magic of Tidying Up”
ซึ่งเราได้หยิบนำเคล็ดลับของเธอมาแชร์เพื่อให้คุณสามารถจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนี้
● พับเสื้อผ้าเก็บในแนวตั้ง
โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการพับผ้าแล้ววางเสื้อผ้านั้นในแนวนอน ซ้อนกันจากล่างขึ้นบนเป็นคอนโด เมื่อวันหนึ่งเสื้อผ้ากองนี้ถูกสะสมมากๆ เข้า คอนโดล้ม ต้องเก็บกันใหม่ และที่สำคัญ ส่งผลให้เมื่อมีเสื้อผ้าใหม่ๆ มา รวมถึงเสื้อผ้าที่ซักแล้วถูกพับ และวางไว้ด้านบน ทำให้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านล่างจะไม่ค่อยได้หยิบออกมาใช้หรืออาจจะไม่ได้ใช้เลย แต่เทคนิคการจัดเก็บแบบ KonMari นั้นตรงข้ามกัน โดยหลังจากที่พับเสื้อผ้าแล้วให้วางเสื้อผ้าในแนวตั้ง เรียงต่อกันไปในแนวนอน เทคนิคนี้ก็เพื่อให้เสื้อผ้าที่ยังสวมใส่ได้อยู่ มีโอกาสได้หยิบออกมาใช้ ไม่ถูกซ้อนทับกันเหมือนการเก็บเสื้อผ้าในแนวนอน จุดเด่นของการเก็บเสื้อผ้าในแนวตั้งคือ เสื้อผ้าไม่ยับอีกด้วย
● แขวนเสื้อผ้าโดยการไล่จากสี และน้ำหนัก
การแขวนเสื้อแบบ KonMari จะเป็นการแขวนเสื้อแบบแยกประเภท ด้านบนจะเป็นกลุ่มเสื้อกันหนาว เสื้อเชิ้ต ส่วนด้านล่างจะเป็นกางเกงขายาว นอกจากนี้ยังแนะนำการแขวนแบบไล่สีและน้ำหนัก เพื่อช่วยให้ง่ายต่อการหยิบใช้ในแต่ละวัน
● วางเรียงให้เห็นเสื้อผ้าทุกชิ้น
อีกหนึ่งหลักการสำคัญสำหรับการจัดตู้เสื้อผ้าแบบ KonMari คือ เสื้อผ้าที่ถูกพับแล้ว ควรจัดวางในแนวตั้งและเรียงให้เห็นกันทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเสื้อยืด เสื้ออยู่บ้าน กางขายาว หรือกางเกงขาสั้น รวมไปถึงกลุ่มของถุงเท้า และชุดชั้นใน วิธีนี้จะช่วยให้สะดวกในการหยิบใช้งาน เสื้อผ้าทุกชิ้นจะไม่ตกหล่นจากการใช้งาน ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ไม่ทำให้เสื้อผ้ายับ เนื่องจากวิธีนี้เป็นการจัดวางเสื้อผ้าในแนวตั้งและเรียงชิ้นต่อไปในแนวนอนนั่นเอง
การจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ และหยิบใช้ง่าย แม้ว่าเริ่มแรกจำเป็นและจำใจที่จะต้องตัดใจทิ้งเสื้อผ้าไปบางตัวบ้างก็ตาม แต่มันเป็นวิธีที่สามารถขจัดปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ได้ การพับผ้าและเก็บเสื้อผ้าในแนวตั้งยังเป็นการช่วยให้หยิบใช้เสื้อผ้าได้อย่างสะดวกมากขึ้น ประหยัดเวลาในการหาเสื้อผ้าไปได้มาก การจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าไม่ใช่การจัดระเบียบเพียงครั้งเดียวจบ แต่ควรมีการจัดการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ หาเสื้อผ้าที่จะใส่ไม่เจอ สุดท้ายต้องเสียเวลามารื้อตู้กันใหม่อีก