LIVING SERIES
  • Witty Living

‘ไฟห้องนอน’ เลือกยังไงให้นอนหลับสบายเหมือนโรงแรมทุกคืน

เพราะการนอนเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกสีไฟห้องนอนจะช่วยให้รู้สึกพักผ่อนเต็มที่มากขึ้น เอพีมาพร้อมเคล็ดลับและวิธีเลือกสีไฟเพดานห้องนอนที่ชวนเคลิ้มเหมือนนอนโรงแรมทุกคืน

AP THAILAND

AP THAILAND

‘ไฟห้องนอน’ เลือกยังไง

MAIN POINT 

 

  • การเลือกใช้แสงไฟในห้องนอนมีความสำคัญ เพราะแสงมีผลกระทบโดยตรงต่อการนอน การเลือกไฟควรคำนึงตั้งแต่ประเภทของหลอดไฟ ไปจนถึงลักษณะของการติดตั้งที่เหมาะสมกับการใช้งาน 
  • เคล็ดลับการทำให้ห้องนอนน่าพักผ่อนขึ้นง่ายๆ เช่น ไม่ควรส่งมาโดยตรงที่เตียงนอน ใช้งานระบบเซนเซอร์เพิ่มความสะดวกสบาย รวมไปถึงการติดไฟด้านหลังทีวีและจุดสำคัญอื่นๆ ในห้อง

 

‘ไฟห้องนอน’ เลือกยังไงให้นอนหลับสบายเหมือนโรงแรมทุกคืน

ห้องนอน

 

ใครเคยไปนอนโรงแรมแล้วติดใจกับความสบายของเตียงนุ่มๆ เข้ากันกับแสงไฟที่กำลังพอดี ชวนให้เราเคลิ้มหลับสบาย ครั้นพอกลับมาถึงบ้านก็อยากจะลองแต่งให้ออกมาลักษณะคล้ายกับโรงแรมบ้างแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่ต้องห่วงเพราะวันนี้เอพีมาพร้อมเคล็ดลับดีๆ ตั้งแต่การเลือกซื้อแสงไฟ เลือกมุมจัดวาง ตลอดจน 5 ทริคเล็กๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนห้องนอนเรียบๆ ให้กลายเป็นห้องนอนสุดสบายเหมือนได้นอนที่โรงแรมห้าดาวทุกคืน 

 

ทำความรู้จักสีหลอดไฟประเภทต่าง ๆ

หลอดไฟ 3 ประเภท

 

สีของแสงจากหลอดไฟ ถ้าเป็นศัพท์ทางเทคนิคจะเรียกว่า ‘อุณหภูมิของสี’ มีหน่วยเป็นองศาเคลวิน  (K) เพราะสีของแสงที่เราเห็นนั้นสัมพันธ์กับอุณหภูมิของหลอดไฟ คือถ้ามีอุณหภูมิต่ำ สีของแสงที่เปล่งออกมาจากหลอดไฟจะเป็นสีโทนร้อน อย่างสีส้ม สีแดง หรือสีเหลือง แต่ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้น สีของแสงจะออกมาในสีโทนเย็น อย่างสีขาวหรือสีฟ้าแทน สำหรับหลอดไฟในปัจจุบัน สามารถแบ่งอุณหภูมิของสี ได้ 3 ชนิด ได้แก่ วอร์มไวท์ (Warm white), คูลไวท์ (Cool white) และ เดย์ไลท์ (Daylight)

 

1.หลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm white)

หลอดไฟวอร์มไวท์มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,000 – 3,000 เคลวิน ให้แสงสีเหลืองเข้มไปจนถึงสีส้ม นิยมใช้เป็นแสงไฟช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น โรแมนติก และความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังเป็นแสงไฟที่สบายตาที่สุดในการใช้งาน จึงเหมาะกับการใช้บริเวณห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนเป็นหลัก 

 

2.หลอดไฟคูลไวท์ (Cool white)

หลอดไฟคูลไวท์มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4,000 – 5,000 เคลวิน เกิดเป็นแสงสีขาวในโทนอุ่นที่มาพร้อมความนวลและสว่าง โดยความสว่างของหลอดไฟประเภทนี้จะอยู่กึ่งกลางระหว่าง หลอดไฟวอร์มไวท์กับหลอดไฟเดย์ไลท์ การใช้งานแสงนี้เหมาะกับคนที่ต้องการให้ห้องมีความสบายตา กระฉับกระเฉง

 

3.หลอดไฟเดย์ไลท์ (Daylight)

หลอดไฟเดย์ไลท์มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 6,000 เคลวิน ให้แสงสีขาวเหมือนกับแสงในธรรมชาติ ถือเป็นแสงสีที่สว่างมากที่สุด จึงทำให้มองเห็นได้ชัดและให้ความรู้สึกสดใส กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้กระฉับกระเฉง และรู้สึกตื่นตัวมากกว่าสีอื่นๆ จึงเป็นสีที่ไม่เหมาะกับการใช้ในห้องนอน มักใช้ในพื้นที่ทำงานของบ้านมากกว่า 

 

วิธีเลือกแสงไฟให้เหมาะกับการใช้งานในห้องนอน

ห้องนอนพร้อมแสงไฟที่แตกต่างกัน

 

หลังจากเข้าใจประเภทของหลอดไฟแล้ว คำถามต่อมาแล้วควรเลือกติดตั้งไฟอย่างไรที่บริเวณไหนของห้องนอน เพราะการติดตั้งไฟในห้องนอนไม่ใช่แค่ว่าใช้ไฟประเภทเดียว ลักษณะหลอดหรือแสงที่เหมือนกันแล้วใช้ได้ทั้งหมดห้อง เอพีชวนมารู้จักต่อกับ 3 ลักษณะของไฟในห้อง เพื่อเพิ่มมิติและลูกเล่นที่จะยกระดับความสบายไปอีกขั้นกัน

 

1. แสงไฟส่องสว่างทั่วไป 

เป็นแสงไฟพื้นฐานสำหรับทุกห้อง ให้แสงสว่างพอดีกับการมองเห็นสิ่งของในห้องนอน ส่วนใหญ่มักเป็นไฟเพดาน หรือเป็นโคมไฟติดหรือห้อยจากเพดาน หากอยากติดโคมไฟบริเวณเตียงนอน ควรติดเยื้องออกไปบริเวณข้างเตียงแทนเพื่อให้ไม่รบกวนสายตาโดยตรงขณะพักผ่อนที่เตียง หรือสามารถใช้เทคนิคการจัดแสงไฟแบบ Indirect Lighting หรือแสงไฟที่ไม่โดนเราโดยตรงร่วมด้วย เช่น ติดไฟซ่อน ไฟหลืบที่สะท้อนกับผนังและส่องมาที่เตียงนอนแทน หรือเลือกติดโคมไฟที่ส่องแสงสะท้อนขึ้นเพดานแทน เพื่อไม่ให้แสงไฟมารบกวนการนอนของเราได้

 

2. แสงไฟส่องใช้งาน 

มักใช้เป็นแสงไฟที่ให้ความสว่างเฉพาะจุด เช่น โต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะข้างเตียงนอน และเป็นแสงประเภทที่ห้องนอนของโรงแรมมักนิยมใช้เป็นโคมไฟ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟติดผนัง ตลอดจนโคมไฟบริเวณทางเดิน แต่สำหรับใครที่ต้องการใช้แสงประเภทนี้บริเวณโคมไฟโต๊ะเขียนหนังสือ ควรดูตำแหน่งการติดตั้งโคมไฟให้เหมาะสม เช่น หากถนัดเขียนหนังสือมือขวา ก็ควรติดตั้งโคมไฟด้านซ้ายมือ เพื่อไม่ให้เกิดเงาบังรบกวนสายตาด้วยเช่นกัน 

 

3. แสงไฟส่องเน้น

สุดท้ายคือแสงไฟส่องเน้นใช้งานเฉพาะจุด มักเป็นแสงไฟที่นิยมใช้ตกแต่งเพิ่มบรรยากาศให้ห้องนอนดูสวยงามแปลกตาขึ้นไปอีกขั้น เช่น โคมไฟที่เปล่งแสงเป็นรูปทรงต่างๆ พวกไฟซ่อนในผนัง หรือไฟซ่อนบนเพดานที่เป็นเส้นแฉกหรือทรงโค้ง ไฟสไตล์นี้สามารถช่วยให้ห้องนอนของเราดูมีมิติ น่าใช้งาน ตลอดจนสามารถแสดงถึงความเป็นตัวเองของเจ้าของห้องผ่านงานตกแต่งไฟได้ด้วยเช่นกัน

 

5 เทคนิคติดไฟในห้องนอนให้หลับสบายทุกคืน

1. คำนึงถึงขนาดห้อง และการใข้งาน

 

ถ้าห้องนอนของเราใช้ไฟที่สว่างมากพอ จะทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมถนอมสายตาของเราอีกด้วย ดังนั้นการเลือกสีไฟในห้องนอนจึงควรเลือกอันที่มีความสว่างเพียงพอ และไม่ควรให้มุมใดของห้องมืดกว่ามุมอื่นๆ โดยเฉพาะห้องนอนที่มีมุมทำงานหรือมุมอ่านหนังสือ โดยการเลือกสีไฟห้องนอนควรเลือกโทนสีส้มอมเหลือง เพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อน

 

2. ไฟไม่ควรส่องโดยตรงมาที่เตียงนอน

 

หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการนอนโดยตรงคือแสงไฟ ดังนั้นถ้าเราเลือกตำแหน่งของไฟไม่เหมาะสมอาจทำให้หลับไม่สนิท สะดุ้งตื่นกลางดึก และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ บริเวณติดตั้งไฟจึงไม่ควรกระทบสายตา แนะนำให้ติดด้านข้างหัวเตียงหรือเปลี่ยนมาใช้ไฟหลืบ อย่าปรับแสงให้จ้าเกินไปเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่

 

3. ติดตั้งไฟส่องเฉพาะจุด

 

นอกจากไฟในห้องที่ควรสว่างทุกจุดแล้ว พื้นที่เล็กๆ น้อยๆ อย่างภายในช่องเก็บของ ชั้นวางของ หรือจุดสำคัญต่างๆ ที่ใช้แสงสว่างแค่บางครั้งบางคราว ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟทั้งห้อง อาจเลือกใช้เทคนิคการใช้ไฟส่องเฉพาะจุดแทน เช่น การเลือกใช้หลอดวอร์มไวท์หรือคูลไวท์ติดตั้งซ่อนไว้ในจุดดังกล่าวก็จะได้แสงสว่างแบบนวลตา และไม่ส่งผลกระทบกับคนข้างๆ ที่นอนร่วมกันด้วย

 

4. ไฟหลังทีวีช่วยถนอมสายตาได้

 

ห้องนอนหลายๆ ห้อง มักติดตั้งทีวีไว้บริเวณปลายเตียง เพื่อจะได้นอนดูสบายๆ พร้อมสร้างบรรยากาศด้วยการปิดไฟให้ห้องนอนมืดๆ แทน เพื่อให้สายตาจับจ้องไปที่โทรทัศน์เพียงอย่างเดียว แต่อย่าลืมว่าแสงจากโทรทัศน์ค่อนข้างเป็นแสงที่สว่างจ้า และกระทบสายตาเราโดยตรง ดังนั้นแล้วควรติดตั้ง LED TV Blacklight ซ่อนไว้ด้านหลังทีวี เพื่อให้ไม่เกิดความมืดและสว่างจ้าที่ชัดเจนเกิดไป ช่วยให้การดูทีวีผ่อนคลายและดีต่อสุขภาพเรามากขึ้น

 

5. ติดไฟเซนเซอร์อัตโนมัติใต้ขอบเตียง

 

เพราะแสงไฟไม่ได้มีตำแหน่งติดไฟส่องสว่างบริเวณเพดาน หัวนอน และฝ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถติดที่ขอบล่างเตียงได้ด้วย ข้อดีคือเราสามารถลุกมาเข้าห้องน้ำหรือทำธุระอื่นๆ ระหว่างคืนได้ง่ายขึ้น โดยไม่รบกวนคนข้างๆ หรือสำหรับผู้สูงอายุที่มักจะต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อยๆ ก็จะเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น 

 

นอนหลับสบายได้ทุกคืนที่บ้านกับเอพี

เพราะแสงไฟในห้องนอนเป็นเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ การเลือกติดตั้งไฟในแต่ละครั้งต้องผ่านมาคิดมาอย่างดีเพื่อการพักผ่อนที่สบายที่สุด เช่นเดียวกับเอพีที่ได้คำนึงถึงมุมนี้ให้เรียบร้อย เลือกพักอาศัยกับเอพีไม่ว่าจะคอนโด ทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว รับประกันการนอนหลับเต็มอิ่ม สบายเหมือนได้นอนโรงแรมในทุกๆ คืนอย่างแน่นอน

 

เอพี ไทยแลนด์ เติมเต็มเป้าหมาย ชีวิตดี ๆ ในพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเองได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดดีไซน์สวย คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋ง รองรับทุกธุรกิจ ก็เลือกให้ตอบโจทย์ได้เลย เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ

RELATED ARTICLES