KNOW HOW
  • FINANCIAL

กลัว Blacklist ต้องรู้ หนี้เสียคืออะไร? ส่งผลต่อการกู้เงินไหม?

บทความที่จะพาให้ได้รู้จักกับหนี้ดีและหนี้เสีย ว่าหนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด ขอเพียงแค่ต้องมีวินัยทางการเงิน

AP THAILAND

AP THAILAND

หากต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมนั้น ในบางครั้งก็อาจจะต้องยอมสร้างหนี้สินขึ้นมา แต่การเป็นหนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเพราะหนี้นั้นมีทั้งหนี้ที่ดีและหนี้เสีย หากการก่อหนี้นั้นนับว่าดีก็จะช่วยส่งเสริมเครดิตในการขอยื่นกู้ครั้งถัดไปได้ แต่ถ้าเกิดหลงระเริงใช้เงินเกินตัวอาจทำให้เกิดหนี้สินท่วมหัวได้ ดังนั้นแล้วหากมีการวางแผนการเงินอย่างละเอียดรอบคอบก่อนยื่นกู้ก็สามารถช่วยระงับปัญหาการผ่อนชำระหนี้ไม่ไหวที่จะเกิดขึ้นมาในภายหลังได้ ซึ่งในบทความนี้จะพามาดูกันว่าหนี้ดีคืออะไรและหนี้เสียคืออะไร?

 

หนี้ดี คืออะไร

หนี้ดี คืออะไร? ตัวอย่างของหนี้ที่ดีมีอะไรบ้าง?

หนี้ดี คือ หนี้ที่เมื่อเป็นแล้วสามารถก่อให้เกิดรายรับในภายภาคหน้าได้ โดยการนำเงินส่วนที่เป็นหนี้ไปลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจแล้วทำให้เกิดเงินหรือรายได้ตามมาในอนาคต ตัวอย่างของหนี้ดีคือ

  • หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ เงินกู้ยืมเพื่อธุรกิจ เงินกู้ยืมเพื่อลงทุนหรืออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ
  • หนี้ที่ก่อให้เกิดความรู้ เช่น การกู้เงินเพื่อเรียนต่อ ซึ่งสามารถนำความรู้มาต่อยอดในการทำงานหาเลี้ยงชีพให้อนาคตได้
  • หนี้ที่อยู่ในระบบ เช่น เงินกู้จากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้เครดิตบูโร เพราะหากชำระหนี้เสร็จสิ้นครบทุกงวดก็จะมีเครดิตทางการเงินที่สามารถใช้ประกอบการขอยื่นกู้ได้อีก

 

หนี้เสีย คืออะไร

หนี้เสีย คืออะไร? ตัวอย่างของหนี้เสียมีอะไรบ้าง?

หนี้เสีย คือ หนี้ที่เมื่อเป็นแล้วไม่สามารถก่อให้เกิดรายรับในภายภาคหน้าได้ ตัวอย่างของหนี้เสียคือ 

  • หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น เงินกู้เพื่อไปท่องเที่ยว เงินกู้เพื่อซื้อของฟุ่มเฟือย
  • หนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ครบตามที่กำหนด ก็จะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้อง ยึดทรัพย์ เสียเครดิต ติดบัญชีดำของธนาคาร ทำให้ชื่อเสียงทางการเงินไม่ดี กู้ไม่ผ่านในครั้งต่อไป
  • หนี้ที่อยู่นอกระบบ เช่น เงินกู้จากสถาบันการเงินที่อยู่นอกเครดิตบูโร เพราะต่อให้จ่ายหนี้ครบก็ไม่มีประวัติการชำระหนี้ อีกทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงและหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนดอาจใช้วิธีการทวงที่รุนแรงอีกด้วย

 

วิธีแก้ไขก่อนไม่เหลือเงิน

วิธีแก้ไขก่อนไม่เหลือเงิน

ได้รู้ไปแล้วว่าหนี้ดีคืออะไรและหนี้เสียคืออะไร? หากไม่อยากเกิดความกังวลใจว่าจะสามารถผ่อนชำระหนี้ได้หรือไม่ ควรมีการวางแผนทางการเงินล่วงหน้าอย่างรอบคอบจึงจะส่งผลให้สามารถเคลียร์หนี้ได้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดหนี้สินก้อนโตที่อาจเพิ่มขึ้นจากการไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามเวลาอีกด้วย ซึ่งการวางแผนการเงินนั้นมีวิธีการดังต่อไปนี้

การกำหนดสัดส่วนของการใช้จ่าย 

เช่น ไม่ควรเป็นหนี้เกิน 40% ของรายได้ การกำหนดสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมของเงินแต่ละก้อนตามความจำเป็นได้ เช่น ค่ากิน ค่าที่พัก เป็นต้น โดยการเป็นหนี้ที่จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายคือไม่ควรเป็นหนี้เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้แต่ละเดือน

ไม่สร้างหนี้เพิ่ม

การสร้างหนี้เพิ่มจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ทำให้ต้องผ่อนชำระหนี้มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นควรควบคุมหรือระงับค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง เพื่อนำเงินส่วนนั้นมาชำระหนี้ที่เหลือต่อไป

จัดลำดับการจ่ายหนี้

การจัดลำดับการจ่ายหนี้ คือการเรียงลำดับความสำคัญของการชำระหนี้เพื่อให้หนี้ครบตามกำหนด โดยที่นิยมทำมีอยู่ 2 ทางเลือก ได้แก่

  • การเลือกชำระก้อนหนี้ที่มียอดคงเหลือน้อยที่สุด เพื่อให้จำนวนก้อนหนี้ที่มีอยู่ลดลง
  • การเลือกชำระก้อนหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด เป็นการกำจัดก้อนหนี้ที่มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงเพื่อประหยัดเงินไว้สำหรับหนี้ก้อนอื่นๆ ที่มี

ดังนั้นแล้วคุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองเพื่อลดการเกิดความเครียดจากการเป็นหนี้ได้

การรวมหนี้

การรวมหนี้ คือ การนำหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อประเภทอื่นๆ มารวมเข้าด้วยกันไว้เพียงที่เดียว เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ ไม่เกิดความสับสนว่าต้องจ่ายหนี้ก้อนไหนก่อน-หลัง ทั้งยังอาจได้รับดอกเบี้ยที่ถูกลงทำให้สามารถชำระหนี้ได้มากขึ้นตามไปด้วย โดยการรวมหนี้ควรดูว่าตนเองมีหนี้อะไรบ้างและศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลของธนาคารที่ให้บริการรวมหนี้เพิ่มเติม

เจรจากับสถานันการเงิน 

อีกวิธีหนึ่งที่ควรทำเมื่อเกิดปัญหาผ่อนชำระหนี้ไม่ไหวและไม่อยากติดบัญชีดำ คือการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขอลดหย่อน ผ่อนปรน หรือปรับโครงสร้างหนี้ โดยการเจรจาจะได้เป็นผลนั้นต้องอาศัยชื่อเสียงเครดิตทางการเงินที่คุณมีควบคู่กับความพึงพอใจในข้อเสนอของทั้งสองฝ่ายเป็นจุดร่วมกันด้วย

 

5 เรื่องที่ควรคิดก่อนเป็นหนี้

5 เรื่องที่ควรคิดก่อนเป็นหนี้

ไม่ว่าจะเป็นหนี้ดีหรือหนี้เสีย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์มีหนี้ท่วมหัวหรือการสร้างหนี้เกินกำลังศักยภาพในการผ่อนชำระหนี้ของตนเอง ควรมีการวางแผนและมีแนวคิดก่อนเลือกที่จะเป็นหนี้ 5 ข้อดังนี้

ดูความจำเป็น

ก่อนเป็นหนี้ควรพิจารณาถึงเหตุและผล วิเคราะห์ดูว่าหนี้ก้อนนี้มีความจำเป็นต่อชีวิตไหม หากจำเป็นแล้วมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด พยายามเรียงลำดับความสำคัญของหนี้แต่ละก้อนว่าควรสร้างหนี้ก้อนไหนก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อที่จะได้มีเงินรายได้จากหนี้ก้อนนั้นมาใช้จ่ายในอนาคตต่อไป

เลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสม

การเลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสมกับตนเองนั้นสามารถเลือกได้จากจุดประสงค์ที่จะใช้เงินก้อนนั้นเพื่อทำอะไร เช่น เพื่อผ่อนบ้าน ควรเลือกสินเชื่อบ้าน เพื่อผ่อนรถ ควรเลือกสินเชื่อรถยนต์ เพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ควรเลือกสินเชื่อบุคคล เป็นต้น การวางแผนเช่นนี้จะสามารถเลือกสินเชื่อได้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดเพื่อให้ตอบโจทย์กับสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละเดือน

เปรียบเทียบเงื่อนไข และอัตราดอกเบี้ยหลายๆ ที่

นอกจากการเลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสมแล้ว การเปรียบเทียบเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยจากแหล่งให้กู้หลายๆ แห่งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำ เนื่องจากแต่ละที่ก็จะมีเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาการผ่อนชำระที่แตกต่างกัน ซึ่งหากเราสามารถเลือกได้ตรงกับความต้องการของเราจะทำให้การผ่อนชำระหนี้ไม่หนักจนเกินไป

ประเมินศักยภาพการผ่อนชำระ

การผ่อนชำระหนี้ที่ดีไม่ควรส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมากเกินไป โดยสามารถคำนวณได้จากหนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือนหารด้วยรายได้ต่อเดือนและทำการคูณ 100 ซึ่งไม่ควรมีหนี้เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ดังนั้นแล้วก่อนสร้างหนี้ควรประเมินศักยภาพการผ่อนชำระของตนเองว่าสามารถทำได้หรือไม่ มากหรือน้อยเพียงใดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผ่อนไม่ไหวตามมาในภายหลัง

ประเมินศักยภาพในการหารายได้ และความมั่นคงของรายได้

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผ่อนชำระหนี้ไม่ไหวหรือผ่อนได้ไม่ตรงเวลาอันเป็นผลเนื่องมาจากไม่มีความมั่นคงทางรายได้ จึงควรประเมินศักยภาพว่างานที่ทำมีความมั่นคงของรายได้เพียงพอที่จะผ่อนชำระหนี้ให้ครบทุกงวดในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อไม่ให้ติดบัญชีดำ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการยื่นกู้ในครั้งต่อๆ ไปในอนาคตได้



จะเห็นได้ว่าการเป็นหนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหากหนี้ที่เราก่อขึ้นมานั้นเป็นหนี้ที่ดี เพราะจะช่วยส่งเสริมเครดิตในการขอยื่นกู้ครั้งถัดไปได้ ทั้งยังเป็นการฝึกฝนให้มีระเบียบวินัยในการใช้เงินอีกด้วย โดยหนี้ดีคือเป็นหนี้ที่สามารถก่อให้เกิดรายได้ขึ้นในอนาคตจากการนำเงินส่วนที่เป็นหนี้ไปลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจแล้วทำให้เงินงอกเงยตามมาในภายหลัง แต่หากหลงระเริงกับเงินอาจส่งผลให้เกิดหนี้ท่วมหัวหรือที่เรียกว่าหนี้เสียตามมาได้ แต่สำหรับหนี้เสียคือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในภายภาคหน้า เช่น หนี้เพื่อของฟุ่มเฟือย หนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัว เป็นต้น ซึ่งหากไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ครบทุกงวดตามระยะเวลาที่กำหนดหรือจ่ายล่วงเวลาจะทำให้ติดบัญชีดำซึ่งส่งผลเสียต่อชื่อเสียงเครดิตทางการเงินที่ใช้ประกอบการพิจารณาการกู้ในครั้งต่อไป 

 

ดังนั้นแล้วก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ควรคำนึงถึงความจำเป็นและจุดประสงค์ของการใช้เงินว่าจะใช้เงินนั้นเพื่ออะไร และเงินก้อนนั้นจะสามารถนำมาต่อยอดให้เกิดรายได้ในอนาคตได้มากน้อยเพียงใด ร่วมกับการประเมินศักยภาพของตนเองว่าจะสามารถผ่อนชำระหนี้ให้ครบตามกำหนดได้หรือไม่ และการเลือกสินเชื่อว่าประเภทไหนเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ยุ่งยากที่จะตามมา

RELATED ARTICLES