KNOW HOW
  • Witty Hacks

วิธีแยกขยะก่อนทิ้ง พร้อมเทคนิค 3R มาช่วยคัดแยกขยะในบ้าน

วิธีการคัดแยกขยะก่อนทิ้งให้ถูกประเภท และรู้จักเทคนิค 3R ที่จะช่วยให้การคัดแยกขยะเป็นเรื่องง่าย ๆ พร้อมกับเรียนรู้การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด

AP THAILAND

AP THAILAND

ประโยชน์ของการแยกขยะ

MAIN POINT

 

  • ขยะแต่ละประเภทมีวิธีจัดการที่ต่างกัน จึงควรคัดแยกขยะให้ถูกต้องก่อนทิ้งลงถัง เพื่อช่วยให้กระบวนการกำจัดขยะเป็นไปอย่างมีระบบและรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลให้สามารถกำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาขยะล้นโลกและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตในระบบนิเวศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
  • การคัดแยกขยะในบ้านง่าย ๆ ด้วยเทคนิค 3R ประกอบไปด้วย Reduce (ลด), Reuse (ใช้ซ้ำ), Recycle (รีไซเคิล) ที่นอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยลดโลกร้อนได้อย่างดี

 

 

ทุกวันนี้โลกกำลังเผชิญปัญหาขยะล้นโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยขยะส่วนหนึ่งยังถูกกำจัดด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง จนกลายเป็นปัญหามลพิษสะสม การที่จะช่วยโลกลดปริมาณขยะได้คือการที่ทุกคนร่วมใจกัน โดยเริ่มต้นง่าย ๆ จากการคัดแยกขยะที่บ้านอย่างถูกวิธี และจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิค 3R ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยม โดยเน้นลดการใช้ทรัพยากร (Reduce) ใช้ซ้ำให้คุ้มค่า (Reuse) และแปรรูปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ซึ่งช่วยลดขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

 

หลักการคัดแยกขยะที่บ้านด้วยเทคนิค 3R

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ทางสภากรุงเทพมหานครได้ประกาศข้อบัญญัติใหม่ เรื่องการปรับเพิ่มค่าธรมเนียมเก็บขยะ โดยบ้านที่แยกขยะจะเสียค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อเดือน ส่วนบ้านที่ไม่แยกขยะจะเสียค่าธรรมเนียม 60 บาทต่อเดือน เริ่มมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน ทำให้การแยกขยะกลายเป็นเรื่องที่หลายบ้านจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

 

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องคัดแยกขยะอย่างไร AP Thai ได้รวบรวมวิธีคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง พร้อมหลักการ 3R ที่จะมาช่วยจัดการขยะในบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการคัดแยกขยะให้ถูกต้องไม่เพียงลดขั้นตอนในการกำจัดขยะ แต่ยังช่วยให้สามารถกำจัดได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

 

รู้จักประเภทของขยะก่อนแยก ต้องทิ้งลงถังแบบไหน?

การแยกขยะเป็นเรื่องที่ทุกคนควรศึกษาและทำความเข้าใจ เพราะขยะบางประเภทก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ส่วนขยะบางประเภทควรกำจัดโดยทันที เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ดังนั้นเพื่อง่ายต่อการจัดการ เราควรทิ้งขยะให้ถูกต้อง โดยสังเกตง่าย ๆ จากสัญลักษณ์หรือสีของถังขยะ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้

 

ถังขยะแต่ละประเภท

 

1. ขยะอินทรีย์ ต้องทิ้งที่ถังขยะสีเขียว 

ขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก คือ ขยะที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน ซึ่งส่วนมากจะมาจากขยะในครัวเรือน เช่น เศษอาหาร ผลไม้ ใบไม้  กิ่งไม้ โดยขยะจำพวกนี้จะสามารถนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตรได้

2. ขยะทั่วไป  ต้องทิ้งที่ถังขยะสีน้ำเงิน 

ขยะทั่วไป คือ ขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ และไม่คุ้มค่าต่อการนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล แต่ก็ไม่ใช่จำพวกขยะที่มีสารพิษ เช่น ซองขนมขบเคี้ยว ถุงพลาสติก ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กล่องโฟม หลอดกาแฟ เป็นต้น

3. ขยะรีไซเคิล ต้องทิ้งที่ถังขยะสีเหลือง 

ขยะรีไซเคิล คือ ขยะที่สามารถนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปแล้วเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก เช่น กระป๋องอลูมิเนียมสามารถนำไปรีไซเคิลเป็นขาเทียม หรือแก้วที่สามารถนำไปหลอมให้ขึ้นเป็นภาชนะใหม่ได้

4. ขยะอันตราย ต้องทิ้งที่ถังขยะสีแดง 

ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีสารพิษปนเปื้อน รวมทั้งวัตถุไวไฟที่อาจเกิดปฏิกิริยากับวัตถุอื่น ๆ และจำพวกขยะติดเชื้อ ซึ่งไม่ควรปะปนไปกับขยะประเภทอื่น ๆ เพราะอาจจะเกิดผลกระทบและอันตรายกับสิ่งมีชีวิตได้ เช่น ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์สารเคมีต่าง ๆ แบตเตอรี่ ยาฆ่าแมลง ชุดตรวจโควิด-19 ที่ใช้แล้ว โดยขยะจำพวกนี้จะไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก และต้องนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้มีสารพิษหลงเหลืออยู่

 

เริ่มต้นคัดแยกและจัดการขยะที่บ้านง่าย ๆ ด้วยหลักการ 3R

สัญลักษณ์ Reduce Reuse Recycle

 

 

จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ อย่างการคัดแยกขยะให้ถูกประเภท ถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแต่การแยกขยะอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ หากไม่ได้จัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดย AP Thai จะพามารู้จักวิธีการคัดแยกและจัดการขยะด้วยหลัก 3R เพื่อช่วยลดปริมาณขยะได้อย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบไปด้วย

 

  • Reduce: ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น
  • Reuse: นำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำ 
  • Recycle: แปรรูปทรัพยากรที่ใช้แล้วเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่

 

โดยหลักการ 3R นี้เป็นแนวคิดในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้น วิธีการเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเริ่มต้นได้จากที่บ้านของเรานี่เอง

 

วิธีการนำหลักการ 3R มาคัดแยกขยะในบ้าน

1. หลักการ Reduce (ลด)

Reduce คือ ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น เป็นการควบคุมการใช้ทรัพยากรให้พอเหมาะ เพียงเท่านี้ก็จะส่งผลให้ปริมาณขยะลดน้อยลง แถมยังช่วยให้เห็นคุณค่าและรู้จักการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

ตัวอย่างทรัพยากรที่สามารถใช้กับหลักการ Reduce ได้

1. ลดถุงพลาสติก

ถุงพลาสติกใส่ของ

 

ถุงพลาสติกเป็นทรัพยากรที่ย่อยสลายได้ยาก ใช้เวลานานหลายร้อยปี หากกำจัดโดยการเผาจะก่อให้เกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอนซึ่งเป็นบ่อเกิดภาวะโลกร้อนและสารก่อมะเร็งอีกด้วย ปัจจุบันจึงมีการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและเปลี่ยนเป็นถุงผ้าแทน

 

เปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก

ช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก

 

ถุงผ้า เป็นวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายกว่าถุงพลาสติก แถมยังมีความทนทาน ใช้ง่ายขาดยาก พกพาง่าย สามารถนำไปซักและนำกลับมาใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ ส่งผลช่วยให้ลดปริมาณขยะมูลฝอยได้มากและลดอัตราการเกิดของก๊าซเรือนกระจกได้เป็นอย่างดี

 

2. ลดการใช้โฟม

กล่องโฟมสามขนาด

 

ปัญหาขยะกล่องโฟมล้นโลกในปัจจุบัน ส่งผลกระทบร้ายแรงเป็นวงกว้างให้กับทั้งคนและสัตว์  เพราะมีการปล่อยของเสียที่ทำลายสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการกำจัด สามารถแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

เปลี่ยนมาใช้ปิ่นโต กล่องเก็บอาหารแทนการใช้กล่องโฟม

ปิ่นโตใส่อาหารและกระติกน้ำสแตนเลส

 

เปลี่ยนจากการใช้กล่องโฟม มาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างการใช้ปิ่นโต หรือกล่องใส่อาหาร รวมทั้งการใช้แก้วน้ำส่วนตัวแทนแก้วน้ำพลาสติก ซึ่งช่วยลดขยะจำพวกโฟม พลาสติกได้หลายเท่าตัว สามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำมาใช้ต่อได้เรื่อย ๆ เป็นการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า นอกจากรักษ์โลกแล้วยังเป็นการรักสุขภาพอีกด้วย

 

3. ลดการใช้กระดาษ

กล่องกระดาษทิชชู

 

กระดาษ ไม่ว่าจะเป็น กระดาษทิชชู กระดาษเอกสาร จานหรือแก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและก่อให้เกิดขยะจำนวนมาก แถมยังเป็นบ่อเกิดคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

 

เปลี่ยนมาใช้ผ้าเช็ดหน้าแทนการใช้กระดาษทิชชู่

ผ้าเช็ดหน้า

 

เปลี่ยนจากกระดาษทิชชู่ มาใช้ผ้าเช็ดหน้าที่สามารถซักแล้วใช้ซ้ำต่อไปเรื่อย ๆ ได้ แถมยังสามารถพกติดตัวได้ตลอด เป็นการช่วยลดทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และถือเป็นการลดการตัดต้นไม้ทางอ้อมอีกหนึ่งทางด้วย

 

4. ลดการใช้สิ่งของสิ้นเปลือง

ซองบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กจำนวนมาก

 

การใช้ทรัพยากรที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวและต้องทิ้ง เป็นการสร้างขยะจำนวนมากโดยใช่เหตุ อย่างผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจำพวกซองที่ไม่สามารถนำกลับมาเติมใหม่ได้ ถือเป็นสิ่งของที่สิ้นเปลืองและน่าเสียดายทรัพยากรที่นำมาใช้ในการผลิตสิ่งของเหล่านี้

 

เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำได้

บรรจุภัณฑ์แบบขวดที่สามารถเติมได้เรื่อย ๆ

 

ลดการสร้างขยะจากบรรจุภัณฑ์ด้วยการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถเติมได้เรื่อย ๆ ตลอดอายุการใช้งานอย่างขวดแก้ว และซื้อผลิตภัณฑ์ในรูปแบบรีฟิลมาเติมแทน ช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองและยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้อีกเมื่อไม่ใช้แล้ว

 

2. หลักการ Reuse (ใช้ซ้ำ)

Reuse คือ การนำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำอีกโดยไม่ผ่านการแปรรูปหรือแปรสภาพ เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลให้ปริมาณขยะลดลงและเพิ่มสมดุลให้ธรรมชาติมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยรักษ์โลกในรูปแบบง่าย ๆ แต่ได้ผลลัพธ์มหาศาล

 

ตัวอย่าง ทรัพยากรที่สามารถใช้กับหลักการ Reuse ได้

1. เสื้อผ้า

เสื้อสีเอิร์ธโทน ห้อยป้ายสัญลักษณ์ Reuse

 

เสื้อผ้าเก่าที่ไม่ต้องการแล้ว สามารถนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศลได้ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ต้องการ หรือหากเป็นเสื้อผ้าที่มีตำหนิจนไม่สามารถสวมใส่ได้ ก็สามารถนำไปใช้ถูบ้านได้อีกด้วย และในปัจจุบันการใส่เสื้อผ้ามือสองก็เป็นที่นิยมในหมู่คนสมัยใหม่ เพราะสไตล์และความวินเทจที่หาไม่ได้กับเสื้อผ้าในยุคปัจจุบัน ถือเป็นการนำเสื้อมา Reuse ได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดการเกิดขยะ มลพิษให้กับโลกของเราอีกด้วย

สำหรับใครที่มีแพลนจะโล๊ะตู้เสื้อผ้าเก่าสามารถนำไปบริจาค เพื่อส่งต่อโอกาสให้ชีวิตอื่น ๆ ได้ที่องค์กรเหล่านี้

 

  • มูลนิธิกระจกเงา
  • มูลนิธิบ้านนกขมิ้น
  • ปันกัน โดย มูลนิธิยุวพัฒน์
  • มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
  • มูลนิธิบ้านกึ่งวิถีหญิง
  • โครงการ Help Keeper คนจิตอาสา
  • วัดพระบาทน้ำพุ
  • มูลนิธิสวนแก้ว
  • มูลนิธิธรรมานุรักษ์

 

2. เฟอร์นิเจอร์

ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่

 

เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา และอื่น ๆ เมื่อมีการชำรุดเสียหายในสภาพที่ยังสามารถซ่อมแซมได้ แทนที่จะซื้อสินค้าใหม่ ลองเปลี่ยนมาเป็นการซ่อมแซมแทน เพราะนอกจากจะช่วยลดการเกิดขยะแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย

 

3. หนังสือ

กองหนังสือเก่าในกล่องลัง

 

หนังสือเก่าที่ไม่ต้องการแล้ว สามารถนำไปบริจาคตามสถานที่ที่รับบริจาคหนังสือต่าง ๆ เพื่อส่งต่อความรู้และประโยชน์ให้ผู้ที่ต้องการได้ หรือสามารถนำไปวางเป็นพร๊อพเพื่อตกแต่งห้องมุมใดมุมหนึ่งก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ 

สำหรับใครที่มีหนังสือที่ไม่ใช้แล้ว สามารถนำไปบริจาค เพื่อส่งต่อความรู้ดี ๆ ได้ที่องค์กรเหล่านี้

 

  • มูลนิธิกระจกเงา
  • ห้องสมุดคนตาบอดและผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์แห่งชาติ
  • มูลนิธิบ้านนกขมิ้น
  • มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
  • ห้องสมุดแมวหางกิ้นส์
  • มูลนิธิคริสเตียนเพื่อเด็กพิการ (CCD)
  • มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก
  • โครงการ Super Kids Charity รับบริจาคหนังสือ 
  • ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข มหาวิทยาลัยมหิดล
  • มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง

 

4. เครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าในกล่องพลาสติกใส

 

สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว สามารถนำไปขายต่อกับร้านที่รับซื้อสินค้ามือสองได้ เพื่อส่งต่อให้กับคนที่ต้องการ หรือการเลือกใช้ถ่านไฟฉายแบบชาร์จได้ ก็เป็นข้อดีที่จะช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ และยังช่วยลดมลพิษจากสารเคมีในถ่านได้อีกด้วย

 

5. กล่องหรือชั้นวางของ

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในกล่องลัง

 

กล่องหรือชั้นวางของที่ผ่านการใช้งานแล้วแต่ยังคงสภาพดีอยู่ สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อได้ เช่น กล่องลังจากพัสดุทางไปรษณีย์ สามารถนำมาใช้สำหรับเก็บของต่าง ๆ ได้ เพื่อจัดระเบียบให้สิ่งของภายในบ้าน เป็นการ Reuse กล่องลังได้อย่างคุ้มค่าและไม่ก่อให้เกิดขยะเพิ่มเติม อีกทั้งยังช่วยให้บ้านสะอาด แถมยังหาของภายในบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

3. หลักการ Recycle (รีไซเคิล)

Recycle คือ การนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ เป็นกระบวนการแปรรูปหรือแปรสภาพทรัพยากรที่ใช้แล้ว ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง เป็นการหมุนเวียนทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดในหลักการ 3R

 

ตัวอย่างทรัพยากรที่สามารถใช้กับหลักการ Recycle ได้

1. พลาสติก

ขวดพลาสติกในถังรีไซเคิล

 

พลาสติกจำพวกขวดน้ำ ขวดใส่แชมพู ขวดโลชั่น และอื่น ๆ ล้วนเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้กันทุกครัวเรือน ทำให้เกิดเป็นขยะจำนวนมหาศาล ดังนั้นควรนำพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จะได้ประโยชน์มากกว่าการทิ้งให้กลายเป็นขยะอย่างสูญเปล่า

ซึ่งพลาสติกที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ แบ่งได้เป็นหลายประเภท

 

  • พลาสติก PETE:  ที่ใช้ทำขวดน้ำ ขวดสบู่เหลว สามารถนำกลับมารีไซเคิลให้เป็นเส้นใยสำหรับทำเสื้อกันหนาวหรือพรมได้ 
  • พลาสติก HDPE:  ที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์สำหรับทำความสะอาด สามารถนำกลับมารีไซเคิลให้เป็นขวดน้ำมันเครื่องได้
  • พลาสติก PVC:  ที่ใช้ทำพวกท่อประปา สามารถนำกลับมารีไซเคิลให้เป็นท่อน้ำประปาหรือรางน้ำได้
  • พลาสติก LDPE:  จำพวกฟิล์มห่ออาหาร สามารถนำกลับมารีไซเคิลให้เป็นถุงดำสำหรับใส่ขยะได้
  • พลาสติก PP: ที่ใช้ทำภาชนะบรรจุอาหาร สามารถนำกลับมารีไซเคิลให้เป็นกล่องแบตเตอรี่ในรถยนต์ได้
  • พลาสติก PS: ที่ใช้ทำโฟมใส่อาหาร สามารถนำกลับมารีไซเคิลให้เป็นไม้แขวนเสื้อได้

 

หากต้องการทิ้งพลาสติกเหล่านี้ หรือพบเจอขยะพลาสติกที่หล่นอยู่ตามข้างทาง สามารถเก็บรวบรวมใส่ถุงแล้วนำไปทิ้งที่ขยะสีเหลืองสำหรับรีไซเคิลได้เลย

 

2. เศษอาหาร

เศษอาหารที่บ่มจนเป็นปุ๋ยอินทรีย์

 

เศษอาหารที่เหลือจากการรับประทาน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ เปลือกไข่ ล้วนแต่เป็นขยะอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน สามารถนำไปใส่ในถังหมักเพื่อทำเป็นปุ๋ยออร์แกนิกไว้ใช้ในการเกษตรได้ หรือหากต้องการทิ้งลงถังขยะ ต้องเลือกทิ้งใส่ถังสีเขียวที่เป็นขยะอินทรีย์โดยเฉพาะ


สำหรับใครที่สนใจวิธีการกำจัดเศษอาหารภายในบ้าน หรืออยากสร้างประโยชน์จากเศษอาหารที่ทานเหลือเป็นประจำในแต่ละวัน สามารถตามไปอ่านต่อได้ที่ รวม 7 วิธีกำจัดเศษอาหารเหลือทิ้งในบ้าน ให้เป็นประโยชน์

 

3. เสื้อผ้าที่ไม่สามารถใช้ได้แล้ว

เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วสามารถนำไปรีไซเคิลได้

 

หากมีเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว อย่าเพิ่งนำไปทิ้งให้เป็นขยะในทันที เพราะเสื้อผ้าเหล่านั้นยังสามารถนำมาดัดแปลง ตัดเย็บ ให้กลายเป็นสไตล์ใหม่ ๆ รวมทั้งยังสามารถนำชิ้นส่วนอะไหล่เสื้อผ้า เช่น กระดุม ซิป กลับมาใช้ซ้ำกับเสื้อผ้าตัวอื่น ๆ ได้ หรืออาจจะ DIY เปลี่ยนให้กลายเป็นกระเป๋าสะพายเก๋ ๆ ไม่ซ้ำใครก็ได้อีกเช่นกัน แต่ในกรณีที่เสื้อผ้าชำรุดจนจำเป็นต้องทิ้งจริง ๆ ให้ทิ้งที่ถังขยะสีน้ำเงิน โดยการเก็บรวมใส่ถุงและนำไปกำจัดเฉพาะทาง เพราะขยะจำพวกผ้าเป็นขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง


ซึ่งในปัจจุบันได้มีการเกิดเทรนด์ที่เรียกว่า Textile Recycling เป็นเทรนด์เสื้อผ้ารักษ์โลกที่ได้มีการนำเสื้อผ้าเก่าที่ไม่ใช้งานแล้ว ไปเข้าสู่กระบวนการผลิตอีกครั้งจนได้เป็นเสื้อผ้าชิ้นใหม่ สามารถเป็นจุดขายให้กับแรนด์เสื้อผ้าได้ แถมยังช่วยลดขยะสิ่งทอ เป็นการใส่ใจโลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

 

4. ขวดแก้ว

ขวดแก้วในถังรีไซเคิล

 

ขวดแก้วต่าง ๆ ที่ไม่ใช้แล้ว เช่น ขวดโซดา ขวดโหลแก้ว แก้วน้ำ สามารถนำไปทิ้งได้ในถังขยะรีไซเคิลสีเหลือง โดยให้ถอดฝาออกจากขวดแก้ว และเทของเหลวออกให้หมดก่อนนำไปทิ้ง ซึ่งวิธีการรีไซเคิลจะใช้กระบวนการหลอมเพื่อให้เกิดเป็นแก้วขวดใหม่หรือรูปทรงใหม่ ๆ ที่นอกจากจะเป็นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าและอาจสร้างอาชีพให้กับผู้ที่สนใจด้านการผลิตแก้วได้อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีขวดแก้วบางชนิดที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ อย่างเช่น กระจกแว่นตา บานหน้าต่าง หลอดไฟ จอมอนิเตอร์ เป็นต้น เนื่องจากกระจกเหล่านี้จะมีสารบางชนิดเจือปนอยู่ แนะนำให้ไปบริจาคให้แก่มูลนิธิหรือส่งต่อให้กับผู้ที่ต้องการ จะเป็นการลดขยะให้กับโลกได้เช่นกัน หรือหากต้องการกำจัดทิ้ง ต้องทิ้งในถังขยะอันตรายสีแดง โดยมัดใส่ถุงปิดมิดชิดก่อนนำไปทิ้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากสารเคมีต่าง ๆ

 

5. แผ่นไม้

แผ่นไม้ที่ชำรุดและไม่ได้ใช้งานแล้ว

 

สำหรับแผ่นไม้ที่ชำรุด หรือไม่ได้ใช้งานแล้ว สามารถนำไปรีไซเคิลโดยการแปรรูปให้เกิดเป็นเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ๆ อย่างเช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือสิ่งของต่าง ๆ ได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นงานคราฟท์เพื่อสร้างรายได้ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้วยังได้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

ประโยชน์ของการแยกขยะในบ้าน และการใช้หลัก 3R ลด ใช้ซ้ำ รีไซเคิล

คัดแยกขยะในบ้านกับครอบครัว

 

หากทุกบ้านสามารถทำได้ครบทั้ง 3R ไม่ว่าจะเป็นการ Reduce ลดการใช้ทรัพยากรที่จะก่อให้เกิดขยะโดยไม่จำเป็น, การ Reuse ใช้ทรัพยากรซ้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด, การ Recycle นำทรัพยากรที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งโดยผ่านการแปรรูปจนเป็นทรัพยากรใหม่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นการแก้ปัญหาขยะล้นโลกได้ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง และช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับระบบนิเวศ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อย่างมหาศาล ส่งผลมาถึงความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวเราด้วยเช่นกัน

 

1. ช่วยลดปริมาณขยะ

เมื่อคัดแยกขยะในบ้านได้อย่างถูกต้องแล้ว ก็จะมีทั้งขยะที่สามารถใช้ต่อได้ หรือขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลจนกลายเป็นของใหม่และนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ทำให้ปริมาณขยะที่ต้องทิ้งจริง ๆ ลดน้อยลง ปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมรอบตัวบ้านก็จะลดลงตามไปด้วย

2. สร้างจิตสำนึกให้คนในครอบครัว

การศึกษาหลักการคัดแยกขยะ จะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กลายเป็นผู้ที่เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อม และใส่ใจในคนรอบข้างมากขึ้นไปด้วย เพราะการคัดแยกขยะก็ถือเป็นการลดภาระให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการกำจัดขยะ ช่วยให้พวกเขาทำงานได้เป็นระบบและรวดเร็วมากขึ้น

3. ลดปัญหาสุขภาพให้คนในครอบครัว

เมื่อจัดการขยะได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เชื้อโรคหรือมลพิษต่าง ๆ ที่อาจแฝงอยู่ภายในบ้านก็จะลดลงไปด้วย ส่งผลให้คนในครอบครัวไม่เจ็บป่วยจากแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนที่บ้านได้อย่างดี

4. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้าน

เมื่อรู้จักการใช้ทรัพยากรแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้องแล้ว จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้าน ส่งผลให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสิ่งของใหม่ ๆ ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกทาง

 

วิธีคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง พร้อมหลัก 3R ที่ไม่ว่าใครก็ลงมือทำได้

ทั้งหมดนี้คือวิธีคัดแยกขยะที่ถูกต้อง พร้อมกับหลักการ 3R ตัวช่วยให้การคัดแยกขยะที่บ้านเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ AP Thai นำมาแบ่งปัน เพราะขยะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน หากช่วยกันคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง จะทำให้โลกนี้สะอาดและน่าอยู่มากขึ้น ส่งผลให้ระบบนิเวศทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ พืช ล้วนแต่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นไป

 

เพิ่มเติมสาระความรู้ดี ๆ เรื่องของการรักษ์โลก ได้ที่นี่!

 

เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต

เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ

RELATED ARTICLES